Coke กับแคมเปญที่โกยถึง 1,000,000,000 (หนึ่งพันล้าน) Impressions

Coke กับแคมเปญที่โกยถึง 1,000,000,000 (หนึ่งพันล้าน) Impressions

จากประเด็นเครื่องความหลากหลายทางเพศอย่าง LGBT ในบราซิลที่ถูกมองข้ามมานาน ผ่านประโยคล้อเลียนที่ว่า ‘Essa coca é Fanta’ หรือแปลเป็นอังกฤษว่า This coke is a Fanta เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า “ดูภายนอกเป็นโค้ก แต่ภายในไม่ใช่นะจ้ะ” เป็นพูดเชิงล้อเลียนและเหยียดเพศที่สามทาง…เลือกในประเทศบราซิลมานาน

ทางโค้กเลยก็ไม่อยู่เฉย เอาประเด็นนี้ขึ้นมาเล่นด้วยการสกรีนข้อความดังกล่าวลงไปบนกระป๋อง แล้วก็เพิ่มอีกหนึ่งคำสั้นๆต่อท้ายว่า “so what?” หรือเป็นประโยคเต็มๆว่า “This Coca-Cola is a Fanta, so what?” ประหนึ่งจะบอกเชิงท้าทายว่า “กูเกย์แล้วไง?”

แล้วไม่ใช่แค่การสกรีนข้อความบนกระป๋องเท่านั้น แต่น้ำข้างในกระป๋องก็ยังเป็นแฟนต้าจริงๆซะด้วย

ที่โค้กสามารถทำได้ก็เพราะแฟนต้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทโค้ก แต่ด้วยความกล้าที่จะจุดประเด็นขึ้นมา กล้าที่จะท้าทายขึ้นมา และก็กล้าที่จะเล่นกับแบรนด์ขนาดนี้

จากจุดเริ่มต้นที่กระป๋องดังพิเศษนี้ถูกแจกให้กับเฉพาะกลุ่มพนักงานในบริษัท และกลุ่มคนดังบนโซเชียลมีเดีย กลายเป็นว่าเกิดการแชร์และพูดถึงอย่างมหาศาล จนมีเสียงเรียกร้องให้เอากระป๋องข้อความดังกล่าวมาวางขายเร็วๆซักที

ทั้งหมดนี้เกิดมาจากปัญหาของโค้กที่ว่า ทุกวันนี้ยอดขายโค้กลดลงทุกปี เป็นเวลาหลายปีต่อเนื่องมาตั้งแต่อินเทอร์เน็ตเข้าม (เรื่องนี้มีคำอธิบายว่าพอคนเริ่มติดอินเทอร์เน็ตและไม่ออกจากบ้าน น้ำอัดลมซึ่งปกติในต่างประเทศนั้นจะเกิดการซื้อขายที่ร้านค้านอกบ้าน หรือตามตู้กดในห้างสรรสินค้า ผลที่ตามมาคือยอดขายน้ำอัดลมลงมากว่า 6 ปีต่อเนื่องแล้ว

แต่ที่หนักสุดคือในปี 2017 จากเดิมที่ลดเพียงแค่เลขตัวเดียว กลายเป็นเลขสองหลักในปีเดียว โค้กเลยต้องหาทางที่จะเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้ และประเด็นที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ทั่วโลกให้ความสนใจก็คือความเท่าเทียมทางเพศที่หลากหลาย มากกว่าคนรุ่นก่อนๆหลายเท่านัก (ลองดูข้อมูลจากไฟล์รีเสริชของคน Gen Z ที่ผมแชร์ไว้เมื่อวานก็ได้ครับ)

และงานนี้โค้กก็สามารถได้ใจคน Gen Z ที่บราซิลไปเต็มๆ

ขอชื่นชมให้กับความกล้าของโค้ก และความสามารถของเอเจนซี่อย่าง David ที่ลุกขึ้นมาเล่นกับประเด็นสังคมเพื่อทำให้โลกดีขึ้นครับ

ลองอ่านข่าวเต็มๆได้ที่นี่ครับ
https://veja.abril.com.br/…/essa-coca-e-fanta-diz-campanha…/

ติดตามเรื่องราวการตลาดวันละตอน สดใหม่ทุกวันได้ที่ : https://www.everydaymarketing.co/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน