Wongnai Data Services พร้อมเปิดดาต้าไลฟ์สไตล์ ให้ธุรกิจที่สนใจไปต่อยอด

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา การตลาดวันละตอนได้รับเกียรติจาก Wongnai บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ที่คุ้นกับคนไทยมานานว่าตอนนี้พร้อมขยายธุรกิจสู่ผู้ให้บริการด้านดาต้าที่ชื่อว่า Wongnai Data Services ครับ

เพราะ data ของวงในนั้นรู้ใจคนไทยไม่น้อยไปกว่าแพลตฟอร์มฝรั่งยักษ์ใหญ่

จากข้อมูลวงในจาก Wongnai ที่บอกให้รู้ว่า วันนี้เขามีข้อมูลร้านอาหารมากกว่า 260,000 ร้าน ตั้งแต่ชื่อร้าน สถานที่ตั้งของร้าน ประเภทของร้าน ราคาต่อหัวโดยประมาณ ร้านมีที่จอดรถมั้ย และยังมีข้อมูลอื่นๆอีกมากที่แพลตฟอร์มอื่นไม่มีเหมือน Wongnai สมชื่อวงในจริงๆครับ

แต่ data ของ Wongnai ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะการจะเปิดธุรกิจใหม่เป็นผู้ให้บริการด้านนี้ได้ยังต้องมีข้อมูลที่มากกว่าแค่ข้อมูลร้าน แต่ยังต้องมีถึงข้อมูลลูกค้ามากมายที่ Wongnai เก็บเอาไว้ตลอดเวลาอีกด้วย

เพราะ Wongnai ยังมีข้อมูลการรีวิวและรูปภาพจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 10,000,000 คน บวกกับในแต่ละเดือนมีผู้เข้ามาใช้บริการมากกว่า 10,000,000 users ที่ทั้งเข้ามาค้นหาร้านอาหาร รวมถึงยังเข้ามาเขียนรีวิวและอัพโหลดรูปภาพอาหารใหม่ๆเข้าไปในแพลตฟอร์มของ Wongnai ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้ทาง Wongnai มีข้อมูลร้านอาหารและการรีวิวทั้งหมดรวมกันแล้วมากกว่า 1,900,000,000 data ครับ

นั่นหมายความว่า data ที่วงในมีนั้นเรียกว่า Big Data ได้เต็มปาก เพราะข้อมูลไม่ใช่แค่ต้องมีปริมาณเยอะให้สมกับคำว่า Big แต่ยังต้องมีข้อมูลที่หลากหลาย บวกกับต้องมีข้อมูลที่คอยอัพเดทให้สดใหม่อยู่เสมอ แน่นอนว่าธุรกิจในวันนี้ถ้าจะเดินหน้าก็ต้องมี Data โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาหน้าร้านหรือที่เรียกว่า Location base นั้นยิ่งควรต้องมี data เหล่านี้จาก Wongnai เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจให้แม่นยำขึ้นครับ

และอย่าคิดว่า Wongnai จะมีแค่ข้อมูลประเภทร้านอาหารเท่านั้น แต่ธุรกิจของ Wongnai ยังมี data ในมิติอื่นๆที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะบริการ Delivery หรือ POS หรือแม้แต่ Wongnai Beauty หรือ Hotels รวมไปถึงยังมีสำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังอย่าง Blognone (เว็บนี้ผมเข้าไปอัพเดทความรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆเป็นประจำ) และยังมีมากมายหลายด้าน แต่ทั้งหมดนี้บอกให้รู้ว่า Wongnai สามารถเอา data จากหลายๆ dimension มาประกอบกันเป็น Persona ของแต่ละคนได้ชัดเจนและแม่นยำในการ analyze เพื่อหา insight ได้ดียิ่งขึ้นครับ

เพราะปกติแล้วการจะหา data เพื่อมา analyze ให้ออกมาดีนั้นต้องใช้ data จากหลาย source แต่ด้วยความที่ Wongnai มีหลาย source ของตัวเองเลยทำให้การใช้บริการ Wongnai Data Services นั้นน่าจะสะดวกสบายและง่ายสำหรับธุรกิจที่ไม่อยากจะดีลหลายปาร์ตี้ให้วุ่นวายครับ

สิ่งที่น่าสนใจจาก Data ของ Wongnai คือ ทาง Wongnai บอกว่าเค้าเก็บข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้เมื่อเอามาแมพกับ Location-based ก็ทำให้สามารถบอกได้ว่าพื้นที่ไหนบ้างที่คนเสริชบ่อยๆ ซึ่งก็คือคนชอบเสริชหาร้านอาหารเวลาอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้า(สงสัยว่ามีร้านเยอะมากจนเลือกไม่ถูก หรืออาจจะไม่อยากเดินหาให้เสียเวลาก็ได้ครับ) และยังระบุได้อีกว่าตรงพื้นที่ๆคนชอบเสริชหาร้านอาหารกับวงในบ่อยๆนั้นที่เสริชบ่อยจริงคือช่วงเวลาไหน

ข้อมูลตรงนี้สามารถให้ธุรกิจเอาไปต่อยอดได้ว่า ถ้าพื้นที่นี้คนชอบเสริชหาร้านอาหารบ่อยแต่ด้านมีร้านอาหารน้อย ก็น่าจะบอกให้รู้ว่าเราควรจะเปิดร้านอาหารเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือถ้าจะใช้ data ให้ฉลาดกว่านั้นคือการลงไปดูให้ลึกขึ้นว่าร้านอาหารประเภทไหนที่คนชอบเสริช แล้วสำรวจที่พื้นที่นั้นว่าร้านอาหารประเภทนั้นมีมากพอแล้วหรือถ้า ถ้ายังก็ควรจะรีบเปิดเพื่อรีบกอบโกยลูกค้าให้ได้ก่อนที่ใครจะมาเปิดตัดหน้าไปครับ

และความน่าสนใจจาก Data ของ Wongnai ยังไม่หมดครับ เพราะด้วยการเปิดแพลตฟอร์มที่ให้ User Generated Content ด้วยการจัดประเภทของร้านอาหารต่างๆด้วยตัวเอง ทาง Wongnai ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า บางร้านที่เราคิดว่าเป็นร้านอาหาร 100% แต่แท้จริงแล้วคนกลับชอบกินเมนูของหวานที่ร้านนี้มากกว่าร้านอาหารด้วยซ้ำ ทำให้ร้านนี้เริ่มสับสนว่าจริงๆแล้วตัวเองควรชูอาหารเป็นจุดขายเหมือนเดิม หรือควรจะปรับตัวเป็นร้านขนมหวานที่คนชอบแต่ไม่เคยรู้มาก่อนกันแน่ และร้านที่ว่าก็คือร้านครัวดอกไม้ขาว ที่มีแต่คนเข้าไปบอกว่าร้านนี้เครปเค้กอร่อยมากกกกกกก จนผมอยากลองเข้าไปสั่งแต่เครปเค้กกินจริงๆครับ

และที่พีคที่สุดสำหรับผมคือระบบ AI ที่เข้าใจภาษามนุษย์หรือที่เรียกว่า NLP (Natural Language Processing) ที่ทาง Wongnai เอามาใช้อ่าน comment ที่ผู้ใช้เข้ามารีวิวแต่ละร้านและแต่ละคน ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Word to Vec หรือการหาความเชื่อมโยงของคำขึ้นมาทำให้การจัดหมวดหมู่ความใกล้เคียงของแต่ละร้านจากกว่า 260,000 ร้านที่ Wongnai มีนั้นง่ายยิ่งขึ้น

ถ้าถามว่าการที่ Wongnai ใช้ AI มาอ่าน Comment หลายสิบหลายร้อยล้านเพื่อจัดกลุ่มร้านที่ใกล้เคียงกันจะช่วยอะไรได้ บอกได้เลยว่าช่วยได้มหาศาลครับ เพราะถ้าเราเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่คอมเม้นท์ว่าร้านนี้มีสไตล์แบบไหน หรืออาหารออกไปทางรสชาติแบบไหน มันก็จะสามารถแนะนำร้านอาหารที่เราน่าจะชอบให้ได้แบบ Personalization ครับ

ทาง Wongnai บอกว่ายิ่งเราใช้ระบบของเค้ามากเท่าไหร่ ยิ่งเข้าไปค้นหา เข้าไปเลือกร้าน เข้าไปคอมเมนท์ เข้าไปรีวิวและอัพโหลดรูปภาพ มันก็จะยิ่งเรียนรู้พฤติกรรมความชอบร้านอาหารของเราได้ดียิ่งขึ้น ทำใหครั้งถัดไปที่เราเข้าไปใช้จากเดิมที่เราเสริชร้านกาแฟแล้วอาจจะเจอร้านขนมหวานติดขึ้นมา ทำให้ครั้งหน้าร้านขนมหวานจะค่อยๆหายไปจากผลการเสริชของเราครับ

ผลก็คือเราจะได้เจอร้านใหม่ๆในแบบที่เราชอบมากขึ้น โดยที่เราแค่ใช้ Wongnai ไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง

และด้วยระบบการแนะนำร้านที่คุณน่าจะชอบแบบ Personalization นี้ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้ Wongnai เพิ่มขึ้นกว่า 27% แน่นอนครับว่ายิ่งใช้แล้วยิ่งรู้ใจ แล้วแบบนี้ใครจะหนีไปใช้แพลตฟอร์มอื่นได้จริงมั้ยครับ

สำหรับธุรกิจไหนที่สนใจอยากใช้บริการ Wongnai Data Services นี้แล้วกังวลว่าตัวเองไม่มีทีมงานที่จะมาวิเคราะห์ data ด้วยตัวเองก็ไม่ต้องกังเวลไป เพราะทางวงในเค้ามีบริการ B2B Services มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมช่วย Analyze ให้ตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายที่แตกต่างกันไปครับ

และทั้งหมดนี้บอกให้รู้ว่า ธุรกิจไหนที่อยากจะเดินไปข้างหน้าแบบไม่หลงทิศหรือผิดทาง ในวันนี้คุณต้องมี Data ในการทำให้กลยุทธ์นั้นคมยิ่งขึ้น และในยุค Data แบบนี้ คนที่มี Data จากหลาย dimension แล้วเอามาประกอบกันเป็นภาพของลูกค้าหรือ Persona ที่ชัดขึ้น ก็ยิ่งจะได้เปรียบกับคู่แข่งมากมายหลายขุม และผมเชื่อว่า Wongnai Data Services นี้จะเป็นหนึ่งสิ่งที่ตอบจริตคนไทยมาก เพราะไม่ใช่แค่คนไทยใช้และคนไทยทำ แต่วงในยังเริ่มทำมาก่อนที่เจ้าอื่นจะเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Wongnai ที่ยอมเอามาแบ่งปันให้คนวงในได้รู้กัน และถ้าใครสนใจอยากใช้บริการนี้ เชิญติดต่อได้ที่นี่ครับ > https://business.wongnai.com/restaurants-data-service/

สำหรับคนที่สนใจไฟล์ Persentation ตัวเต็มในงานนี้(เฉพาะของ Wongnai) เข้าไปดาวน์โหลดตามลิงก์นี้ได้เลยครับ > http://bit.ly/2J9UNDh

อ่านบทความที่เกี่ยวกับ Data-Driven ต่อ > https://www.everydaymarketing.co/tag/data-driven-marketing/