Personalized Marketing ลูกค้า 17 ล้านคนด้วย Customer Data Platform ของ Microsoft Dynamics 365
Case study การทำ Personalized Marketing ของ Chipotle ธุรกิจร้านอาหารที่มีฐานลูกค้าหลายสิบล้านด้วยระบบ Customer Data Platform หรือ CDP ของ Microsoft Dynamics 365 ที่จะทำให้นักการตลาดเข้าถึง Customer Insight แบบ 360 องศา เข้าใจลูกค้าแบบรอบด้านและลึกซึ้งสมกับเป็นการตลาดยุค Marketing 5.0 ที่ Data-Driven Marketing
เคสที่จะเล่าถึงการทำ Customer Data Platform หรือ CDP ในวันนี้เป็นของ Chipotle แบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกกันชื่อดังที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ลูกค้าสามารถ Personalized Food หรือเลือกปรับแต่งอาหารที่ตัวเองต้องการได้ตามใจ และแน่นอนว่าเมื่ออาหารยังสามารถถูกปากได้แล้วทำไมจะทำการตลาดแบบรู้ใจ Personalized Marketing บ้างไม่ได้หละ
แต่ปัญหาของ Chipotle ในวันนั้นตอนเริ่มต้นจะทำ Personalized Marketing ให้ได้ก็เหมือนกับอีกหลายๆ แบรนด์ใหญ่ๆ ในวันนี้ที่พบว่ามีดาต้าอยู่มากมายแต่กลับไม่สามารถนำดาต้าที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายมารวมกันไว้ในที่เดียวได้มาก่อน จนกระทั่งได้มารู้จัก Microsoft Dynamics 365 และระบบ Customer Insight ที่เป็น Customer Data Platform หรือ CDP ของ Microsoft ที่สามารถบริหารจัดการดาต้าที่ไหลมาจากหลากหลายช่องทาง ทำให้การทำ Analytics ทั้งภาพรวมและเชิงลึกเป็นจริงได้ ทำให้เราสามารถเข้าใจ Insight ลูกค้าที่แท้จริง และนั่นก็หมายความว่าเราจะสามารถทำการตลาดแบบรู้ใจ Personalized Marketing ได้จริงๆ ครับ
จากอาหารแบบถูกปากสู่การตลาดแบบถูกใจ From Personalized Taste to Personalized Marketing
Chipotle ร้านอาหารเม็กซิกันแบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1993 ด้วยความตั้งใจจะทำอาหารที่ดีให้กับผู้คนได้กิน อาหารที่ใช้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่ดี ปลูกและเลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปรุงอาหารด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ไม่ใช่วัตถุดิบสังเคราะห์ที่อาจจะเป็นอันตรายเจือปนในอาหาร ไม่ใส่สีผสมอาหารให้ดูน่ากินเกินจริง ไม่ใส่สารกันบูดที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพลูกค้า และด้วยความตั้งใจดีในการทำอาหารทุกจานที่ส่งออกมาก็ทพให้ Chipotle ที่วันนี้(ต้นปี 2021) มีมากกว่า 2,700 ร้านทั่วอเมริกา และยังขยายสาขาออกไปยังประเทศแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมัน และอังกฤษ
และด้วยสาขาที่มีมากมายทั่วประเทศก็ทำให้ Chipotle มี Customer Data มากมายมหาศาลตามมาเช่นกัน จากระบบสมาชิก Loyalty program ที่มีมากกว่า 17 ล้านคน จากเครื่อง Point of sale หรือ POS ที่มีมากมายหลายพันเครื่อง ข้อมูลจากระบบดูแลลูกค้าหรือ Customer care ในช่องทางต่างๆ บวกกับข้อมูลจาก Digital platform มากมายที่ทีมการตลาดใช้สื่อสารกับลูกค้า ถ้าจะบอกว่าธุรกิจร้านอาหารรายนี้จะมีข้อมูลในระดับ Big Data ก็คงไม่ผิดนัก
แต่ปัญหาคือข้อมูลทั้งหมดที่มีไม่เคยถูกนำมาจัดการเชื่อมโยงกันเพื่อนำมาทำ Data-Driven Marketing แต่อย่างไร ทำให้เวลาจะตัดสินใจทำแคมเปญการตลาดเมื่อไหร่ก็ต้องหันไปพึ่ง Instinct มากกว่า Insight เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เวลาทำการตลาดออกไปทีก็ยากที่จะรู้ได้ว่าแคมเปญการตลาดใดบ้างที่เวิร์ค หรือมีตัวแปรใดบ้างที่ทำไปแล้วควรทำซ้ำอีก สถานการณ์ก็คล้ายๆ แบรนด์ส่วนใหญ่ครับที่รู้ว่าต้องทำแคมเปญการตลาดเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ไม่รู้ว่าควรทำแบบไหนดีที่ลูกค้าชอบ รู้แต่ว่าทำไปก่อนเดี๋ยวยอดขายก็มา ส่วนจะมามากบ้างน้อยบ้างก็ค่อยว่ากันอีกที
เพราะอย่างที่รู้กันนะครับว่าถ้าเราไม่สามารถวัดผลได้ เราก็ไม่สามารถทำมันให้ดีขึ้นได้ และการจะทำการตลาดและธุรกิจให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากดาต้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนแต่อย่างไร เพียงแค่เราสามารถติดตามวัดผลจนรู้ได้ว่าเรามีลูกค้าประจำที่กลับมาซื้อซ้ำมากน้อยเท่าไหร่ในแต่ละช่วงเวลา กับลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร การรู้ Insight แค่นี้สามารถยกระดับธุรกิจเราได้สบายๆ แต่การจะรู้เท่านี้ได้คือเราต้องเอาข้อมูลลูกค้าที่กระจัดกระจายตามช่องทางต่างๆ มาเชื่อมโยงรวมกันไว้ในที่เดียวให้ได้ก่อน จากนั้นการจะวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแต่ละคนก่อนจะจัดออกเป็นกลุ่มที่มีความใกล้เคียงกัน เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำได้มากขึ้นกว่าหว่านไปมั่วๆ มากมายแล้ว
เพราะถ้าเราได้เห็นถึง Customer Insight ที่แท้จริงว่าลูกค้าเรามี Customer Lifetime Value หรือ CLV กับเรามากเท่าไหร่ เราก็สามารถกกดหนดงบการตลาดได้อย่างถูกต้องมากขึ้น เราจะได้รู้ว่าควรจะต้องใช้เงินกับลูกค้าแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหน จุดไหนคือจุดที่ถ้าเราใส่งบการตลาดเพิ่มเข้าไปแล้วในไม่กี่เดือนข้างหน้าลูกค้าคนนั้นจะกลับมาซื้อกับเรามากพอจนทำกำไรให้เรา
และเราก็สามารถหาลูกค้าชั้นดีจริงๆ ของเราได้แบบไม่ต้องเดา เราสามารถรู้ได้ว่าสาขาไหนคือสาขาที่มีลูกค้าชั้นดีมากกว่าสาขาอื่น สาขาไหนขายดีในช่วงเวลาใดมากเป็นพิเศษหรือเปล่า บางสาขาอาจเป็นเช้า บางสาขาอาจเป็นค่ำ บางสาขาอาจขายได้เฉลี่ยสม่ำเสมอตลอดวัน ซึ่งถ้าเรารู้ Customer Insight จุดนี้เราก็สามารถนำมาใช้ปรับปรุงวางแผนการจัดสรรทรัพยากรพนักงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ที่สำคัญคือเมื่อเรารู้ว่าลูกค้าแต่ละคนมีพฤติกรรมการกินและความชอบต่างกันอย่างไร เราก็สามารถทำการตลาดแบบรู้ใจ Personalized Marketing ออกไปได้ เพราะการตลาดแบบรู้ใจคือการสื่อสารด้วยข้อความที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ ผ่านช่องทางที่ใช่ ให้กับลูกค้าแบบรู้ใจจนไม่อยากเปลี่ยนใจจากแบรนด์เราไปหาคู่แข่งนั่นเองครับ
ก่อนจะทำ Personalized Marketing ได้ต้องเข้าใจ Customer Insight แบบ 360 ที่รอบด้านและลึกซึ้ง
ในเดือนมีนาคม 2019 Chopitle ได้ทำการเปิดตัวระบบสมาชิก Loyalty program ให้ลูกค้าได้สะสมแต้มควบคู่ไปกับแบรนด์เองก็ได้เก็บดาต้าไปพร้อมกัน และระบบสมาชิกนี้เองที่ทำให้แบรนด์ได้ดาต้ามากมายที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาไว้บนระบบ Customer Data Platform ของ Microsoft Dynamics 365 ก็ทำให้การใช้ดาต้ามากมายที่มีเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
เพราะทาง Chopitle ก็อยากจะรู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร มีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนแปลงอย่างไร อยากรู้ว่าลูกค้าที่เป็นขาประจำมาบ่อยมาก ลูกค้าปกติที่มาเรื่อยๆ แต่อาจไม่ถึงขั้นขาประจำ กับลูกค้าขาจรที่นานๆ จะแวะมาซื้อสักที อยากรู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วลูกค้าคนไหนบ้างที่ซื้อเพิ่มขึ้นหรือลดลง
ยอดขายของเราที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากลูกค้าเก่าเป็นส่วนใหญ่หรือมาจากลูกค้าใหม่มากกว่า เพราะถ้าเรารู้ว่ายอดขายที่แท้จริงเรามาจากลูกค้ากลุ่มไหนมากกว่ากัน การจะปรับกลยุทธ์การตลาดหรือวิธีการปฏิบัติงานก็จะสามารถทำได้ตรงตามความเป็นจริง เราจะสามารถใช้งบที่มีจำกัดแก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่ใช่ทำไปเรื่อยโดยไม่รู้ว่าที่เรากำลังทำนั้นเป็นการแก้ปัญหาเดิมที่มี หรือสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมากันแน่
เรื่องพวกนี้ฟังดูเหมือนง่ายแต่ยากที่จะเห็นตัวเลขจริงได้ถ้าไม่ได้ผ่านการวางแผน Data เป็นอย่างดี บอกได้เลยว่าธุรกิจส่วนใหญ่ในวันนี้บอกไม่ได้ด้วยซ้ำครับว่ายอดขายในแต่ละเดือนแท้จริงแล้วมาจากลูกค้าเก่าเท่าไหร่ ลูกค้าใหม่เท่าไหร่ มีลูกค้าที่ซื้อซ้ำมากกว่า 1 ครั้งเฉพาเดือนนี้เท่าไหร่ เรื่องง่ายที่ทำได้ยาก แต่ทำให้เกิดขึ้นจริงได้ถ้าเลือกระบบ Customer Data Platform ที่ดีพอ
ซึ่งตอนนั้นทาง Chopitle ก็หาข้อมูลและทำการเลือกเป็นอย่างดี จาก 6 บริษัทที่เข้ามานำเสนอ Data Solution ก็พบว่า Microsoft Dynamics 365 Customer Insights เป็นระบบ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุดแถมยังสามารถทำงานกับระบบเดิมที่มีอยู่มากมายได้อย่างลงตัว
เพราะการเลือก CDP ที่ใช่กับธุรกิจเราไม่ใช่แค่การจ่ายเงินเลือกที่ดังที่สุดในตลาดมา แต่ต้องเลือกที่ตรงกับโจทย์ทางธุรกิจเรา เลือกที่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการ เลือกที่ใช่กับวิธีการทำงานของบริษัทเรา และต้องแพลตฟอร์มก็ต้องสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเราได้อย่างลงตัว เหมือนกับถ้าอยากใส่สูทแล้วสวยเข้ากับเรามากที่สุดก็ต้องสั่งตัดแบบวัดตัวให้เข้ากับเรา ไม่ใช่ไปซื้อสูทสำเร็จแล้วคาดหวังว่าจะใส่แล้วสวยเหมือนในหุ่นตามตู้โชว์
ทาง Chipotle บอกว่าที่เลือก Customer Insights ของ Microsoft ในเวลานั้นเพราะพวกเขาต้องการระบบที่สามารถทำงานร่วมกับระบบเดิมที่มีอยู่ได้ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของทีมอื่นนอกจากทีมการตลาด และทีมบริหารธุรกิจก็ต้องสามารถใช้งานได้ด้วย
และไม่ได้มีแค่ Microsoft Dynamics 365 Customer Insights เท่านั้นที่ Chipotle เลือก แต่ยังมีการเลือกใช้บริการ Azure Data Factory ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft Azure แล้วยิ่งเมื่อนำ AI และ Machine learning รูปแบบต่างๆ เข้ามาก็ยิ่งทำให้เข้าใจลูกค้าและธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว แบบรอบด้านและลึกซึ้งยิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้
Customer Data Platform ที่ดีต้องเชื่อมกับ Data Sources ภายนอกได้ง่าย
ภายในระยะเวลาแค่ปีกว่า Chipotle มีข้อมูลลูกค้าสิบกว่าล้านและข้อมูลการขายของหลายพันสาขาแบบครบถ้วน และด้วยระบบ Microsoft Dynamics 365 Customer Insights ทำให้พวกเขาเข้าใจ Deep Insight ของลูกค้าแต่ละคน รู้ว่าคนนี้ชอบกินเรามื้อกลางวันหรือมื้อเย็นเป็นหลัก ชอบกินเราในวันธรรมดาหรือวันหยุด ชอบกินหมู เนื้อ หรือไก่ รู้กระทั่งว่าชอบกินผักหรือไม่ครับ
เพราะเมื่อนำข้อมูลลูกค้าทั้งหมดมาเชื่อมโยงกันบน แล้วทำการ Cleansing & Prep data ให้เรียบร้อย เมื่อนั้นเราก็สามารถเห็นสิ่งที่เรียกว่า Customer 360 หรือ Single Customer View แล้วเราก็สามารถใช้ Data-Driven Marketing ได้จริงหรือแม้แต่ Data-Driven Business ก็ตาม แล้วเมื่อเราทำได้ถึงระดับนี้การจะทำ Personalized Marketing ก็จะเป็นจริงแค่ปลายนิ้ว
เมื่อ Data ถูกจัดการเรียบร้อยบน Customer Data Platform แล้ว Chopitle ก็รู้แล้วว่าจากยอดขายทั้งหมดมาจากลูกค้ามากน้อยเท่าไหร่ แล้วจากลูกค้าทั้งหมดที่มีนั้นเป็นขาจรเท่าไหร่ ขาประจำมากแค่ไหน ทีนี้พวกเขาก็สามารถทำแคมเปญการตลาดโดยโฟกัสไปที่ลูกค้าขาจรที่ยังไม่ยอมสมัครสมาชิกให้สมัครสมาชิกมากขึ้น เพื่อจะได้เก็บ Customer Data ได้เยอะขึ้น จากนั้นก็เพิ่มความ Enrich ของข้อมูลด้วย Third-party data กับฟีเจอร์ Microsoft Graph ทำให้ Chipotle สามารถเข้าใจลูกค้าขาจรหรือคนที่ยังไม่ยอมสมัครสมาชิกได้ลึกซึ้งขึ้น และก็รู้ว่าจะต้องทำการตลาดแบบไหน สื่อสารออกไปอย่างไรจึงจะทำให้พวกเขาเหล่านี้เข้ามาสมัครสมาชิกกับแบรนด์
เพราะการที่ Customer Data Platform ของ Microsoft สามารถเชื่อมต่อกับ Third-party data ได้ทำให้ Chopitle สามารถรู้ Insight ลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีก 30% จากข้อมูลลูกค้าที่มีเป็นล้านๆ ก็ทำการเลือกมาเฉพาะ data point ที่สำคัญที่เอามาประกอบกับ Customer profiles ทำให้พวกเขาเห็นสิ่งที่ไม่เคยรู้จนนำไปสู่การรู้จักลูกค้าที่ลึกซึ้งกว่าแค่ First-party data ที่ตัวเองมี
และเมื่อ Chipotle สามารถเข้าใจลูกค้าสิบกว่าล้านคนได้ลึกซึ้งขนาดนี้ พวกเขาก็สามารถกำหนดตัวชี้วัดของลูกค้าที่ส่งผลต่อธุรกิจและกำไรได้อย่างชัดเจน และยังสามารถทำ Personalization ออกไปให้กับลูกค้าทุกคนที่แตกต่างกันได้ โดยตัวชี้วัดจะประกอบด้วยดูว่าลูกค้ามาล่าสุดเมื่อไหร่ ดูจากประเภทของชนิดเนื้อสัตว์ที่สั่งเป็นประจำ ช่องทางที่สั่งอาหารเป็นประจำ รางวัลหรือของขวัญที่เคยได้รับ ค่าเฉลี่ยต่อการสั่งแต่ละครั้ง และด้วยตัวชี้วัดทั้งหมดนี้ทำให้ Chipotle สามารถทำ Customer Segmentation ได้อย่างละเอียดและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และด้วยระบบ Customer Insight ของ Microsoft Dynamics 365 ก็สามารถเชื่อมต่อกับ data source ต่างๆ เพิ่มเติมได้ไม่ยาก ทำให้เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลเข้ามาแล้วก็สามารถทำการตลาดออกไปยังช่องทางหรือวิธีการต่างๆ ที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับระบบ CRM App ของลูกค้าเดิมที่มี เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย เชื่อมต่อกับระบบโฆษณา หรือเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่มีพร้อมให้บริการมากมาย
การตลาดที่ดีต้องไม่ใช่แค่รู้ใจ แต่ต้องปรับตัวไวทันเวลาด้วย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดส่งผลให้ทั่วโลกต้องล็อกดาวน์ในปี 2020 แน่นอนว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทุกแบรนด์แม้แต่ Chipotle เองในช่วงแรก แต่ด้วยการปรับตัวมาใช้ระบบ Customer Data Platfrom อย่าง Customer Insights ของ Microsoft ก็ทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวตามลูกค้าได้ทันเวลาแบบ Real-time
เพราะเมื่อผู้คนจำนวนมากต้องล็อกดาวน์อยู่แต่บ้าน หรือแม้แต่จะเลิกล็อกดาวน์ไปแล้วก็ยังไม่กลับไปกินหรือซื้ออาหารที่ร้านเหมือนเดิม ถ้าเรารู้ทันเวลาว่าลูกค้ากลุ่มไหนของเราคือกลุ่มที่หายไปเราก็จะสามารถสื่อสารออกไปได้ว่าอาหารของเรานั้นสะอาดปลอดภัย หรือแม้แต่การบอกให้กลุ่มลูกค้าประจำที่หายไปรู้ว่าสามารถสั่งเราแบบ Delivery ไปส่งที่บ้านก็ได้ หรืออาจจะสั่งแล้วแวะไปรับที่ร้านเพื่อลดการพบปะผู้คนสำหรับคนที่อยากกินแบบร้อนๆ ทำเสร็จใหม่ๆ
และนี่คือการตลาดแบบ Personalized Marketing ที่เลือกสื่อสารเฉพาะคนหรือเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราใส่ใจพวกเขาอยู่ด้วยข้อความหรือแคมเปญการตลาดที่เสมือนกำลังคุยกับพวกเขาแบบตั้งใจทีละคนทีละคำ
ด้วย Customer Insights ของ Microsft Dynamics 365 ทำให้ทีมการตลาดของ Chipotle สามารถเลือกเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการเท่านั้น จากสมัยก่อนที่เวลาจะทำการตลาดกับลูกค้าแต่ละกลุ่มก็ต้องอาศัยข้อมูลจากภายนอกซึ่งแม่นบ้างไม่แม่นบ้างก็ว่ากันไป แต่วันนี้ทีมการตลาดสามารถเลือกได้เลยว่าอยากจะคุยกับลูกค้ากลุ่มไหน แล้วจะสื่อสารอกไปอย่างไร ทั้งหมดก็คือการคิดให้ออกว่าเราอยากรู้อะไร เราจะรู้ได้อย่างไร เพียงเท่านี้การตลาดก็จะเป็นเรื่องง่ายแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปพร้อมกัน
ทุกวันนี้ Chipotle สามารถทำ Personalized Marketing กับลูกค้าสิบกว่าล้านคนทั้งหมดได้สบายๆ พวกเขาสามารถทำแคมเปญการตลาดแบบรู้ใจให้กับลูกค้าทุกคนได้ เช่น ถ้าพวกเขาต้องการบอกลูกค้าประจำที่ชอบซื้อวันทำงานให้รู้ว่าตอนนี้สามารถสั่งผ่าน Delivery ไปกินที่บ้านกับเมนูที่คุ้นเคยเหมือนตอนเข้าออฟฟิศได้แล้วนะ ก็แค่เลือกใน Customer Insights
แล้วจากการทำสอบส่งแคมเปญการตลาดไปหลายๆ แบบกับลูกค้ากลุ่มนี้ก็ทำให้พบว่าโปรโมชั่นส่งฟรีวันจันทร์นั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็ลดงบการตลาดส่วนอื่นที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่ามาเพิ่มกับการโปรโมทโปรโมชั่นนี้แทน
ถ้าลูกค้าคนไหนยังไม่ยอมสมัครสมาชิกกับเรา เราก็สามารถสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ บนออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียกับลูกค้ากลุ่มนี้ให้มาสมัครสมาชิกกับเราเพื่อรับสิทธิพิเศษที่ถ้าไม่ใช่สมาชิกจะไม่มีทางได้ จากเดิมต้องสื่อสารออกไปยังทุกคนแล้วลุ้นว่าจะเข้าถึงคนที่ต้องการจริงๆ ได้มากน้อยแค่ไหน แต่วันนี้ทุกอย่างที่นักการตลาดอย่างเราเคยคิดฝันสามารถเป็นจริงได้ แค่ต้องมีเทคโนโลยีที่ดีที่เอื้อให้จินตนาการเกิดขึ้นจริงได้ครับ
เพราะลูกค้าแต่ละคนต่างก็มีพฤติกรรมความชอบที่แตกต่างกัน แม้บางคนจะดูคล้ายกันมากแต่เมื่อลงลึกในรายละเอียดแล้วจะพบว่าพวกเขาล้วนแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ดังนั้นการตลาดแบบโลกยุคเก่าที่ใช้ Instinct กำลังจะหายจากโลกนี้ไป ส่วนการตลาดยุคใหม่ที่ใช้ Insight ที่ลึกซึ้งและรอบด้านก็ต้องมาจากการใช้ Data ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็น Data ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย
ซึ่งการจะใช้ Data ที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องมีแพลตฟอร์มหรือระบบ หรือเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย และ Customer Insights ของ Microsoft Dynamics 365 ก็ดูจะตอบโจทย์นี้ เพราะเมื่อดูจาก Case study ของ Chipotle ที่ทำ Personalized Marketing กับลูกค้ากว่า 17 ล้านคนได้แล้วจะเข้าใจ
หมดยุคแล้วกับครับการตลาดแบบ Mass Marketing ที่ยังคงทำการตลาดแบบเดียวกับคนล้านคนแล้วคาดหวังว่าผลลัพธ์จะออกมาดี วันนี้เราอยู่ในยุคของ Data-Driven Marketing ที่ใครๆ ก็แข่งกันทำ Personalized Marketing แข่งกันรู้จักและรู้ใจลูกค้าให้มากกว่าเดิมทุกวัน
สำหรับคนที่สนใจอยากรู้เรื่องราว Case study ของการใช้ Customer Data Platform จาก Microsoft Dynamics 365 Customer Insights เพื่อยกระดับการตลาดและธุรกิจในรูปแบบต่างๆ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน Reimagine Marketing 2022 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ผมยังมีอีกหลายเคสที่อยากเล่าให้คุณฟัง แล้วคุณจะเห็นภาพว่าทุกธุรกิจวันนี้ถ้าอยากจะก้าวต่อไปข้างหน้าในยุค Data-Driven เข้าใช้ Data กันแบบไหนครับ
ลงทะเบียนร่วมงาน Reimagine Marketing 2022 รู้จักโลกของ Customer Data Platform จาก Microsoft Dynamics 365 ที่จะทำให้เราเข้าถึง Customer Insights ที่ลึกซึ้งในระดับ Personalization > https://bit.ly/ReimagineMKT
อ่านบทความแนวการตลาดแบบรู้ใจ Personalization ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=personalization
