SEAT แก้ปัญหาการตลาดของวงการรถยนต์ที่คนไม่ไป Test Drive

SEAT แก้ปัญหาการตลาดของวงการรถยนต์ที่คนไม่ไป Test Drive
การตลาด

จากผลสำรวจของ Volvo บอกว่าทุกวันนี้เวลาคนจะตัดสินใจซื้อรถซักคัน เขาเข้าไป Test Drive ที่โชว์รูมกันแค่ 1.4 ครั้งเท่านั้น 

ในเมื่อตัวเลขการ Test Drive เป็นตัวแปรสำคัญในการเพิ่มยอดขาย ทำอย่างไรที่จะให้คนได้มาลอง Test Drive กับเรามากขึ้น?

แค่อยาก Test Drive ก็ไปหาถึงที่ 

เมื่อคนไม่ค่อยไป Test Drive ที่โชว์รูม งั้นก็แก้ปัญหาด้วยการเอารถไปให้ Test Drive ถึงที่ซะก็จบเรื่อง อ่านดูแล้วอาจจะเหมือนเป็นการตอบแบบกำปั้นทุบดิน แต่นี่คือไอเดียของ SEAT แบรนด์รถยนต์ของยุโรปที่คิดกลับด้านด้วยการเอารถไปให้คนได้ Test Drive ถึงที่แบบไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มแม้แต่นาทีเดียว 

สาเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหนก็เข้าไปแก้ตรงนั้น

SEAT พบว่าสาเหตุหนึ่งที่คนไม่ค่อยไป Test Drive ก็คือนอกจากจะยังไม่สนใจแล้ว ก็คือยังไม่ค่อยมีเวลาด้วย เพราะเราอยู่ในยุคดิจิทัลที่การเชื่อมต่อไม่เคยขาด ทำให้เวลาของเราแต่ละคนในวันนี้ก็ลดน้อยลงไปทุกที

SEAT เลยเอาจุดนี้มาสร้างเป็นแคมเปญที่มีชื่อว่า #EasyTestDrive ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ที่เป็นวันหยุดยาวของชาวฝรั่งเศส ได้เอารถมาสลับกันแล้ว SEAT ก็จะขับรถตามไปยังจุดหมายปลายทางให้พร้อมกันด้วย

งานนี้เวิร์กเพราะ คนไม่ต้องกลัวจะเสียเวลาเกี่ยวกับการ Test Drive ที่ต้องลองขับแล้วก็วนกลับไปเอารถตัวเองเหมือนเดิม เพราะรถคันเดิมก็ถูกขนขึ้นรถบรรทุกอย่างดีระหว่างที่คุณกำลังลองขับ SEAT คันใหม่

เสิร์ฟประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงที่

จากเดิมที่การขับรถทางไกลในรถคันเดิมคือเรื่องน่าเบื่อ ที่คนอยากจะขับให้ถึงไวๆ กลายเป็นประสบการณ์ใหม่จาก SEAT ที่ทำให้การขับรถนั้นน่าสนุกและตื่นเต้นยิ่งขึ้น ทั้งได้ลองรถใหม่ ทั้งได้เล่นฟีเจอร์ใหม่ๆในรถ แถมที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันในรถตัวเองด้วย (ก็ถูกขนขึ้นรถบรรทุกตามมานิ ไม่ได้มีใครขับตามมาให้ซักหน่อย)

ถ้ามองในแง่ Direct Experience ที่จะได้คนมาลองเทสไดร์ฟจริงๆ อาจไม่เยอะ แต่ถ้ามองในอีกแง่นึงคือการที่เจ้าของประสบการณ์นั้นจะเอาเรื่องไปบอกต่อกับเพื่อนฝูงอีกมากมาย ทั้งต่อหน้าแบบปากต่อปาก และมีเรื่องให้แชร์บนออนไลน์อีกมากมาย แถมยังได้วีดีโอที่ทำให้คนที่ยังไม่สนใจ SEAT ต้องหันมาสนใจได้อีกด้วย

กล้าคิดออกนอกกรอบ และกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง

งานนี้ต้องมองกันยาวๆและมองให้ลึกๆครับถ้าจะวัดผล เพราะถ้ามองกันสั้นๆแค่ตัวเลข Engage จริงๆ ก็คงไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ ที่ฉีกกฏแบบนี้

ปัญหาการเพิ่มยอด test drive ก็เป็นปัญหาของทุกแบรนด์รถยนต์ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านเรา ทุกครั้งที่ผมได้รับบรีฟจากลูกค้าแบรนด์รถยนต์มันจะบอกว่าอยากเพิ่มยอดขายๆ แต่พอเสนอให้เพิ่มวิธีการ test drive ไปสู่คนที่สนใจรถจริงๆ กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำ ทั้งที่บอกว่าการจัดการที่ยาก และอีกหลายเหตุผล ครับผมเข้าใจ..พวกท่านไม่ผิดหรอก แต่สิ่งนึงที่ผมอยากจะฝากถามไปถึงมาร์เก็ตติ้งแบรนด์รถยนต์ทั้งหลายคือถ้าคุณมัวแต่ทำอะไรเดิมๆ แล้วหวังที่จะได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ คุณคิดว่าเมื่อไหร่คุณจะได้ผลลัพธ์นั้นครับ

ความสำเร็จเป็นของคนที่กล้า กล้าที่จะทำในสิ่งที่คนเชื่อว่าบ้า ผมรู้ครับว่ามันยาก แต่ผมก็หวังว่าวันนึงจะมีแบรนด์รถในบ้านเราที่กล้าทำอะไรบ้าๆแบบนี้ครับ

ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

ในบทความหน้าผมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่