ไทลินอลเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่จากการทำ Social Listening Research 

ไทลินอลเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่จากการทำ Social Listening Research 

ไทลินอล (Tylenol) แบรนด์พาราเซตามอลชื่อดังที่ทุกคนคุ้นหูกันดี ทางแบรนด์เองก็เป็นที่รู้จักกันดีว่าได้ประยุกต์ใช้ Social Listening tools กับการวางกลยุทธ์ต่างๆ หรือจัดทำ marketing camapign ใหม่ๆอยู่บ่อยครั้ง เราเลยจะมายกตัวอย่างของทาง ไทลินอล Tylenol กันว่าพวกเขามีไอเดียอะไรใหม่ๆบ้างค่ะ 

ไทลินอลเจอ insight ใหม่จากการทำ Social listening

หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่าการทานยาพาราเซตามอลนั้นจะช่วยให้เราแก้ไขอาการปวดและไมเกรน ซึ่งคนที่ทานยาส่วนใหญ่นั้นก็เจาะตลาดไปที่กลุ่มคนที่มัดมีอาการปวดหัวหรือปวดตามตัวอยู่บ่อยๆ แต่บางครั้งกลุ่มลูกค้าที่กล่าวถึงนั้นกว้างจนเกินไป การทำ SEO หรือการทำการตลาดบางอย่างก็อาจจะไม่สามารถครอบคลุมได้ทั่วถึงกลุ่มลูกค้าทั้งหมด การตื่นตัวของแบรนด์ที่มี awreness เรื่องของการรีเสิร์ชจาก Social listening tools ทำให้ทางแบรนด์เข้าถึงโซเชี่ยลมีเดีย และกระทู้ต่างๆ และได้เห็น insight ของคนที่ปวดหัวจริงๆ 

จากการทำรีเสิร์ชพบว่าสิ่งที่น่าตกใจมากก็คือคนจนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการถักไหมพรม หรือแม่บ้านที่ถักไหมพรมเป็นเวลานานมักจะบ่นเรื่องอาการที่ปวดไมเกรนและข้ออักเสบ ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เจอจากการที่คนนั้นเข้าไปบ่นในบอร์ดหรือกระทู้ว่าบางครั้งการถักไหมพรมนั้นเป็นสิ่งที่เขารักและมีความสุข แต่มันก็จะมาพร้อมกับความทรมานจากการปวดตามตัว กระบอกตาและลามไปถึงอาการของการปวดไมเกรนอยู่บ่อยๆ 

เมื่อพวกเขารู้ว่าการที่เห็นกลุ่มแม่บ้านหรือคนที่ชื่นชอบ การถักไหมพรมนั้นมักมีปัญหาของไมเกรน การแก้ปัญหาของพวกเขาก็คือปรับ SEO ให้เข้าถึงคนที่ถักไหมพรมมากขึ้นและสร้างแคมเปญต่างๆ ทำให้เว็บไซต์ของทางแบรนด์มี traffic เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก 

นี่ก็เป็นตัวอย่างของการทำ SEO ที่เกี่ยวข้องกับการถักไหมพรม ด้วยการทำบทความที่เกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงล็อคดาวน์ หนึ่งในนั้นก็มีการถักไหมพรมรวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ทางแบรนด์ก็ส่งเสริมการขายด้วยการติดตะกร้าแบรนด์เพื่อให้คนสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้เลย

ไทลินอลแก้ Pain Point ของคนชอบปวดหัว

นอกจากการที่ใช้ Social listening research เพื่อปรับ SEO ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆแล้ว อีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้งานก็คือการ deliver สรรพคุณของแบรนด์ให้มีประโยชน์กับผู้ใช้งานมากที่สุด 

ทางไทลินอล (Tylenol) ต้องการที่จะหาสาเหตุของความเจ็บปวดและอารมณ์หงุดหงิดของคนที่มีอาการเจ็บปวดจากความตึงเครียด ก็ได้พบอีกว่า 9 ใน 10 ของผู้ใหญ่นั้นมักจะปวดหัวอยู่ที่จุดเดิมๆซ้ำๆ และ 2 ใน 3 ของเด็ก 

แบรนด์เลยใช้พื้นที่บนเว็บไซต์สร้างแคมเปญที่ชื่อว่า “How to Spot a Tension Headache” โดยเนื้อหาคอนเท้นนั้นก็จะประกอบไปด้วย Checklist อาการแก้ปวดจากการตึงเครียด เช่น มึนหัว ตึงบริเวณหย้าผากหรือหลังศีรษะ เป็นต้น 

ถัดมาก็จะบอกสาเหตุของการปวดหัว เช่นนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ลืมทานอาหาร หรือการขบฟันเป็นต้นค่ะ  

แล้วเมื่อไหร่เราควรไปหาหมอ? หัวข้อนี้ชอบมากๆเลย เพราะบางครั้งเราไม่รู้ว่าการปวดหัวแบบนี้เราสามารถทานยารักษาได้เองนานแค่ไหน และเท่าไหร่ที่เรียกว่าอาการหนัก ด้านล่างเขาก็จะมี checklist มาให้ว่าอาการข้างต้นแบบนี้ควรจะออกไปพบแพทย์ค่ะ แล้วทางแบรนด์ก็ไม่ลืมที่จะ tie in สินค้าของตัวเองเข้าไปตบท้ายด้วย 

ตัวอย่างทั้ง 2 อันที่ได้เขียนมาข้างต้น ถึงแม้ว่าทาง ไทลินอลจะไม่ได้เผยข้อมูลหรือภาพช่วงที่ทำ Social listening research ที่มีครบทั้ง process มา แต่เราค่อนข้างชอบการที่เขาพบ insight ต่างๆที่น่าสนใจเอามาปรับเป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายและเข้าถึงกลุ่ม Target ที่แตกต่างออกไปมากขึ้น ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีๆที่เราอยากเอามาเขียนเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านหลายๆคนค่ะ 

Source

หากเพื่อนๆชอบบทความเกี่ยวกับ Data Research หรือ Social Listening ก้อ่านเพิ่มเติมจากลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ https://www.everydaymarketing.co/tag/social-listening/

Pitchakorn Sirimonta

Freelance at Everyday Marketing.co and current social media management who has a passion for business innovation and believe in data-driven marketing.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *