Moleskine เปิด cafe ตัวเองเพื่อขายประสบการณ์ให้ลูกค้า

Moleskine เปิด cafe ตัวเองเพื่อขายประสบการณ์ให้ลูกค้า

หลายคนน่าจะคุ้นกับชื่อ Moleskine ถ้าใครยังนึกไม่ออกแล้วถ้าผมบอกว่า มันคือสมุดที่สตาร์บั๊คทำแจกลูกค้าช่วงสิ้นปีถ้าเติมเงินในบัตร 3,000 บาทขึ้นไป สมุดโน๊ตราคาแพงขายปลีกเล่มเป็นพัน ถูกๆก็สี่ห้าร้อยไปแล้ว เป็นสมุดขวัญใจบรรดานักคิดนักเขียน หรือแม้แต่นักโฆษณาการตลาดก็ชอบใช้กันให้ดูโก้

Moleskine

วันนี้ Moleskine ไม่ได้ขายแค่สมุดและเครื่องเขียนอีกต่อไป แต่ออกมาเปิด cafe หรือร้านกาแฟที่มีพื้นที่ให้บรรดานักคิด นักสร้างสรรค์ ออกมาพบปะเจอกันเพื่อกลายเป็นกลุ่มสังคมของ Moleskine

 Moleskine

เพราะกลุ่มลูกค้าของ Moleskine ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นใคร สิ่งที่แบรนด์มองก็คือทำยังไงให้แบรนด์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่แท้จริงของคนเหล่านี้มากขึ้น

 Moleskine


ในร้านกาแฟหรือ cafe ของ Moleskine นั้นไม่ได้ขายแต่เครื่องดื่มและของหวานเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่สำหรับทำงาน และยังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานของบรรดาลูกค้าที่เป็นศิลปินทั้งหลายอีกด้วย

 Moleskine

จะเห็นว่าพอแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนแล้ว ถัดมาที่ต้องทำคือทำให้คนเหล่านี้ได้มาเชื่อมโยงกันมากขึ้น แล้วแบรนด์จะเป็นมากกว่าแค่สินค้าหรือบริการ แต่จะเป็นจิตวิญญาณของคนกลุ่มนี้ไป

 Moleskine

โดย cafe ของ Moleskine นี้มีอยู่ 3 เมืองทั่วโลกอย่าง เจนีวา มิลาน และ ปักกิ่ง อยากเห็น cafe ของ Moleskine ในบ้านเราเร็ววันจังเลย สงสัยผมคงต้องไปซื้อสมุดช่วยเค้าอีกแรงแล้วล่ะครับ

 Moleskine

ลองดูคลิปของร้านได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=_z8Y5m4yRD8

ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมในเวปไซต์ได้ที่นี่
https://gb.moleskine.com/moleskine-cafe

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่