ธุรกิจ Retail จะไม่ Fail เมื่อใช้ Data จาก Facial-recognition

ธุรกิจ Retail จะไม่ Fail เมื่อใช้ Data จาก Facial-recognition

ธุรกิจ Retail จะประสบความสำเร็จมากกว่าเดิมถ้ารู้จักใช้ Data รอบตัวให้เกิดประโยชน์ และหนึ่งใน Data รอบตัวที่มีเข้ามาทุกวันนั่นก็คือใบหน้าของลูกค้านั่นเองครับ วันนี้จะมาเล่าเคสการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition หรือระบบจดจำใบหน้าลูกค้ามาใช้ในธุรกิจ Retail หรือห้างสรรพสินค้า ว่า Data ที่อยู่บนใบหน้าของลูกค้าที่แวะเข้ามาในร้านนั้นจะช่วยธุรกิจได้อย่างไรบ้างครับ

Facial-recognition เปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็น Data

Facial-recognition อีกหนึ่งอาวุธสำหรับของธุรกิจ Reail หรือห้างสรรพสินค้าในยุค Data marketing เพื่อ CRM และ Personalization

เทคโนโลยีนี้พัฒนาต่อยอดมาจาก Machine vision หรือการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาไปมาก จนในวันนี้สามารถแยกแยะได้ออกว่าใบหน้าในรูปภาพมากมายนั้นแตกต่างกันอย่างไร และนานวันเข้าเทคโนโลยี Facial-recognition นี้ก็พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถคาดการณ์ช่วงอายุของใบหน้านั้นได้ (อันนี้ใครหน้าแก่เกินวัยจนถูก AI ประเมินให้เกินจริงก็อย่าไปโกรธ AI นะครับ) แยกเพศได้ ไปจนถึงแยกเชื้อชาติได้อีกด้วยครับ

ดังนั้นเทคโนโลยีจดจำใบหน้าหรือ Facial-recognition ในวันนี้จึงเป็นระบบที่เอาไว้เก็บ Data จากใบหน้าแต่ละคนให้กลายเป็น Id ที่แตกต่างกัน อารมณ์ก็คล้ายๆ หลายตึกออฟฟิศสำนักงานในวันนี้เริ่มเอาระบบสแกนใบหน้าแทนการแตะบัตรหรือแตะนิ้วเข้าออฟฟิศแล้วอย่างไรล่ะครับ

และเมื่อเทคโนโลยี Facial-recognition นี้พัฒนาไปได้แทบจะแยกแยะคนได้ออกดีกว่าระดับที่มนุษย์ทำได้แล้ว ก็เลยทำให้ธุรกิจต่างๆ พยายามเอาเทคโนโลยีนี้ไปต่อยอดมากมาย และหนึ่งใน Case study ที่น่าสนใจในการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition ไปต่อยอดก็คือธุรกิจ Retail ที่เต็มไปด้วยใบหน้าผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาไม่ขาดสาย จนมีแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Benetton เอาไปใช้ตั้งแต่หลายปีก่อนจนสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ

Facial-recognition Driven Retail

Facial-recognition อีกหนึ่งอาวุธสำหรับของธุรกิจ Reail หรือห้างสรรพสินค้าในยุค Data marketing เพื่อ CRM และ Personalization

ที่ประเทศอิตาลีมีบริษัทชื่อ Almax ได้ค้นพบโอกาสในการเอาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามาใช้กับธุรกิจ Retail โดยเฉพาะที่เป็น Fashion retail พวกเขาสังเกตเห็นว่าร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นทุกร้านล้วนแล้วแต่มีหุ่นโชว์มากมายเพื่อเอาไว้สวมใส่คอลเลคชั่นใหม่ให้ลูกค้าเห็นภาพ

ทาง Almax ก็เลยเกิดไอเดียว่าน่าเสียดายถ้าจะปล่อยให้หุ่นเหล่านี้เป็นแค่หุ่นเอาไว้ใส่เสื้อผ้าโชว์แบบที่ใครๆ ก็ทำกัน มันคงจะดีกว่านั้นถ้าหุ่นโชว์ทั้งหลายเหล่านั้นสามารถช่วยธุรกิจมากกว่านั้นอย่างเช่นช่วยจดจำลูกค้าได้

และนั่นก็เลยเป็นที่มาของการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition มาติดไว้ที่ตาของหุ่นโชว์แต่ละตัว ทำให้หุ่นโชว์ที่เคยมีเอาไว้แค่ใส่เสื้อผ้าโชว์สามารถช่วยให้แบรนด์รู้ว่าในแต่ละวันมีลูกค้าเข้าออกมากน้อยเท่าไหร่ และไม่ใช่แค่จำนวนคนที่เข้ามาที่ร้านในแต่ละวัน แต่ยังสามารถบอกได้อีกว่าช่วงเวลาไหนบ้างที่มีคนเข้ามากกว่าปกติ และนั่นก็ทำให้ทาง Benetton ค้นพบ Insight in Data ที่นำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้นั่นเอง

Insight in Data ผู้ชายช้อปหนักกว่า และลูกค้าต่างชาติมากกว่าพนักงาน

Facial-recognition อีกหนึ่งอาวุธสำหรับของธุรกิจ Reail หรือห้างสรรพสินค้าในยุค Data marketing เพื่อ CRM และ Personalization

เดิมทีทางผู้จัดการร้านหรือสำนักงานใหญ่ของ Benetton เคยแต่เชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ชอบเข้ามาตอนมีโปรโมชั่นคือผู้หญิง และก็คิดว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อก็น่าจะเป็นคนในประเทศหรือไม่ก็นักท่องเที่ยวในยุโรปด้วยกัน

แต่เมื่อนำหุ่นโชว์ที่ติดกล้องไว้ที่ดวงตาเพื่อนำข้อมูลลูกค้าที่เข้าร้านมาวิเคราะห์ถึงทำให้ค้นพบความจริงว่า แท้จริงแล้วในช่วงที่มีโปรโมชั่นลดแรงๆ ในช่วงสองวันแรกกลับเป็นลูกค้าผู้ชายที่เข้ามาช้อปหนักกว่า

และนั่นก็นำมาสู่การปรับสินค้าที่โชว์หน้าร้านให้สอดคล้องกับ Insight จาก Data ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยี Facial-recognition นี้ และยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะจากการเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับทุกๆ สาขาก็ทำให้พบว่าอีกสาขาหนึ่งของ Benetton นั้นกลับมีลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีนมาถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมดครับ

และจากการที่แต่ละร้านมีหุ่นโชว์ที่ติดกล้องอยู่หลายตัวก็เลยทำให้พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนมักชอบเข้ามาที่ร้านหลังสี่โมงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งจาก Data ก็ทำให้ทางผู้จัดการร้านจ้างพนักงานที่สามารถพูดภาษาจีนได้ดีมาไว้บริการลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นพิเศษ

และผลก็คือยอดขายในแต่ละสาขาต่างก็เพิ่มขึ้นแทบจะในทันทีหลังจากมีการเอา Data ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยี Facial-recognition อย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่จะเห็นว่า Insight จาก Data ที่ได้มาจากแต่ละสาขาก็แตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ คือทุกสาขาต่างรู้ว่าตัวเองจะต้องปรับกลยุทธ์หรือรูปแบบการทำงานอย่างไรให้เป็นไปตาม Localized data ที่ได้มานั่นเองครับ

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition ไปใช้ในธุรกิจ Retail หรือห้างสรรพสินค้า แต่รู้ไหมครับว่าในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเอาเทคโนโลยีนี้ไปต่อยอดได้ไกลกว่านั้น เพราะคุณลองคิดดูซิครับว่าถ้าเราติดตั้งกล้องไว้ทุกทางเข้าออกนอกจากเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าแล้วยังเพื่อสร้าง Customer Experience ที่ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย

ใช้ Facial-recognition เพื่อการตลาดแบบ Personalization

Facial-recognition อีกหนึ่งอาวุธสำหรับของธุรกิจ Reail หรือห้างสรรพสินค้าในยุค Data marketing เพื่อ CRM และ Personalization

ในบ้านเรามี Retail หรือห้างสรรพสินค้าบางแห่งเริ่มมีการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition มาใช้บ้างแล้ว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่าจริงแล้ววันไหนบ้างที่คนมากหรือน้อยกว่าปกติ หรือช่วงเวลาไหนบ้างที่มีคนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไปจนถึงการระบุเพศของคนที่เข้ามาไปจนถึงช่วงอายุแบบกว้างๆ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการเอาเทคโนโลยีนี้ไปต่อยอดกับการทำ CRM ให้กลายเป็น Personalization นั่นเองครับ

ลองคิดภาพดูซิครับว่าเมื่อเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามารถบอกได้ว่ามีลูกค้าคนเดิมกลับเข้ามาที่ร้านเราหรือห้างเราเป็นจำนวนเท่าไหร่ในแต่ละวันหรือสัปดาห์ และยิ่งเมื่อเอาฐานข้อมูลดังกล่าวมาบวกกับ CRM ที่เป็นข้อมูลการซื้อขายหรือระดับสมาชิกของลูกค้าแต่ละคนก็จะยิ่งทำให้การปรับกลยุทธ์หรือการทำการตลาดเป็นไปได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

เช่น ถ้าลูกค้า VIP ที่ใช้เงินปีละเป็นสิบล้านบาทเดินเข้าห้างมา เมื่อไหร่ที่กล้องจับได้ก็อาจจะมีการแจ้งพนักงานต้อนรับลูกค้า VIP ให้ออกไปกล่าวทักทายสวัสดีเพื่อทำให้ลูกค้า VIP คนดังกล่าวรู้สึกประทับใจยิ่งขึ้นก็ได้ครับ

และนี่ก็คือข้อดีในยุค Data ที่เราสามารถปรับปรุงการให้บริการลูกค้าหรือ Customer Experience ได้แบบตรงจุดไม่ต้องเดาอีกต่อไป

ฝากถึงนักการตลาดที่อยู่ในสาย Retail หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในวันนี้คุณมีเทคโนโลยี Facial-recognition แล้วหรือยัง ถ้ายัง inbox หรืออีเมลมาปรึกษาได้ครับ

อ่านบทความการเอาเทคโนโลยี Facial-recognition ไปใช้กับการตลาดต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=facial+recognition

Facial-recognition อีกหนึ่งอาวุธสำหรับของธุรกิจ Reail หรือห้างสรรพสินค้าในยุค Data marketing เพื่อ CRM และ Personalization

Source: http://retail-innovation.com/bionic-mannequins-are-watching-you

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่