การตลาดอสังหา กับกลยุทธ์การเพิ่ม Traffic ที่ไกลแค่ไหนคนก็อยากไปอยู่ดี

การตลาดอสังหา กับกลยุทธ์การเพิ่ม Traffic ที่ไกลแค่ไหนคนก็อยากไปอยู่ดี

Case Study ที่ผมจะมาเล่าให้ฟังวันนี้ เป็นเคสการเพิ่ม Traffic ของตลาดอสังหาที่อยู่ในโลเคชั่นที่ค่อนข้างไก เราลองมาดูกันครับว่าเขาทำอย่างไร ถึงทำให้คนอยากเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ

เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปพักผ่อนที่หัวหิน หลังจากไม่ได้มาหนึ่งปีเต็มก็รู้สึกว่าอะไรๆ เปลี่ยนไปไม่น้อยครับจนผมได้มีโอกาสแวะมาร้านกาแฟ Eureka ที่ดังเฉพาะกลุ่มในคนกรุงเทพ ที่ได้ข่าวว่ามาเปิดร่วมกับคอนโดโครงการ Bella Costa ที่หัวหิน แต่พอเอาเข้าจริงก็พบว่าไม่ได้อยู่หัวหินอย่างที่คิดไว้เพราะในความรู้สึกของคนกรุงเทพอย่างผม คำว่าอยู่หัวหินนั้นผมรู้สึกถึงแค่ช่วงระหว่างก่อนถึงวังไกลกังวลเล็กน้อย ยาวจนไปถึงก่อนเขาตะเกียบหน่อยๆเท่านั้น

แต่โครงการ Bella Cosata ที่เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ Eureka นี้อยู่หัวหิน 105 ครับ แถมยังเข้าซอยมาไม่น้อย เรียกได้ว่าถ้าไม่ตั้งใจมานี่คงไม่มีทางหลงเข้ามาง่ายๆแน่แต่ด้วยความเห็นคอนโดที่มีหาดส่วนตัวและโครงการก็ใหญ่โตไม่น้อย ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงเขยิบออกมาไกลจากหัวหินซักหน่อย(จริงๆก็ไม่หน่อยนะ) เพราะต้องใช้พื้นที่ไม่น้อยเพื่อจะทำโครงการให้ได้ขนาดนี้ แถมที่สำคัญพอมาถึงโครงการแล้วรู้สึกคุ้มค่าที่ขับรถกว่า 20 กิโลจากหัวหินมามาก เพราะหน้าหาดทำได้อย่างสวยงาม และก็ให้ความรู้สึกที่ส่วนตัวแบบสุดๆก็เพราะแบบนี้เลยต้องห่างจากตัวหิวหินมาหน่อย ไม่เป็นไร ยอมครับ

ทําเลอยู่ห่างเมือง ต้องใช้กลยุทธ์เพิ่ม Traffic แบบไหนคนถึงจะยอมมา

ทีนี้ก็มาถึงจุดสำคัญของการตลาดที่จะเล่าในวันนี้ ว่าทำไมร้านกาแฟอย่าง Eureka ถึงต้องตามมาตั้งซะไกลขนาดนี้ ผมพบว่าตัวร้านแบ่งพื้นที่กับเซลล์โครงการแทบจะครึ่งๆ ซึ่งไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน และก็ถึงบางอ้อตอนที่เซลล์โครงการขออนุญาตเอาแผ่นพับมาวางแนะนำโครงการลูกค้าทุกโต๊ะครับ

คุณลองคิดดูซิครับว่าคนส่วนใหญ่ที่มาร้าน Eureka จะเป็นใคร? ก็คงหนีไม่พ้นคนเมือง โดยเฉพาะคนที่อยู่กลางเมืองจริงๆ และด้วยสาขาที่เลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างดีไม่ว่าจะศาลาแดงฝั่งพระราม 4 หรือสาขาใหม่ตรงสาทร สถานีช่องนนทรีย์ครับ

ทีนี้เมื่อมีร้านมาตั้งที่หัวหิน แถมยังได้ยินว่าตั้งอยู่ริมหาดสวยงาม ก็คงไม่น้อยที่จะอดใจไม่ให้ตามมากินเหมือนอย่างผมและโต๊ะรอบข้างที่ดูจากทะเบียนรถแล้วเพื่อนร่วมทางจากกรุงเทพทั้งนั้นครับ

มองหากลยุทธ์เพื่อเพิ่ม Traffic แบบตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่การขายแบบยัดเยียด

แล้วทีนี้กลับมาที่จุดเริ่มต้นของการตลาดวันนี้ คุณคงนึกออกเหมือนผมแล้วนะครับว่าทำไม Eureka ถึงต้องออกมาตั้งซะไกลขนาดนี้ การตลาดในวันนี้ไม่ใช่การขายแบบยัดเยียดแบบวันก่อน ลำพังถ้าโครงการ Bella Costa ติดป้ายบิลบอร์ดมากมายชวนให้คนเข้ามาชมโครงการที่ทั้งไกลและเข้าซอกลึกลับ วันๆ นึงเซลล์คงเหงาเพราะนับคนเข้ามาได้แน่ๆ ครับ

แต่นี่ได้ Eureka มาช่วยเรียกแขก แถมยังเป็นแขกที่ตรงเป้าหมาย เป็นคนที่มีไลฟสไตล์แบบที่ใช่ คนที่ยอมจ่ายมากกว่าเพื่อบางอย่างที่ดีกว่า ก็ถือว่าวินๆกันไปทั้งสองฝ่าย ร้านก็ได้พื้นที่ดีๆสวยๆให้ลูกค้าเมืองกรุงตามมา ส่วนโครงการก็ได้ผู้แวะมาเยี่ยมเยียนรู้จักโครงการมากขึ้น

เรื่องยอดขายผมไม่รู้ ต้องรอทางโครงการ Bella Costa หลังไมค์มาบอก แต่ที่รู้ๆ กลยุทธ์เพิ่ม Traffic ได้ผลดีทีเดียว เพราะลูกค้าจากกรุงเทพมาเยอะมาก และเซลล์ก็ไม่เหงาแน่นอนครับ

ปล.ผมแอบมีไอเดียการตลาดต่อยอดให้ Bella Costa ว่า ถ้าเสนอส่วนลดให้ลูกค้า Eureka ซัก 15-20% สำหรับค่าอาหารเครื่องดื่ม คงมีหลายคนลุกขึ้นไปเยี่ยมชมโครงการต่อจนเกิดโอกาสในการขายมากขึ้นแน่ๆ ครับ ฝากผู้บริหาร Bella Costa พิจารณาดูนะครับ แล้วจะส่งส่วนลดมาให้ผมคนแรกก็ได้

ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

ในบทความหน้าผมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่