เทรนด์ ตู้ถ่ายรูป Photobooth ที่ช่วยสร้าง Physical Evidence ได้ทุกธุรกิจ

เทรนด์ ตู้ถ่ายรูป Photobooth ที่ช่วยสร้าง Physical Evidence ได้ทุกธุรกิจ

มีใครเริ่มเห็นการกลับมาของเทรนด์ยุคเก่าบ้างไหมคะ ทั้งแฟชั่นเอยที่หมุนกลับมาที่ Y2K บ้างล่ะ หรือแต่งรูปให้ดูเก่า หรือสินค้าอื่น ๆ หวนสู่อดีตที่คิดถึง หรือคนรุ่นใหม่ที่อินกับความคลาสสิก วันนี้เราจะมาพูดถึงเทรนด์ตู้ถ่ายรูป สติ๊กเกอร์ Photobooth หรือ Photoautomat กันค่ะ

จริง ๆ ที่ตู้สติ๊กเกอร์นี้ได้รับความนิยมในเกาหลีญี่ปุ่น หรือฝั่งอเมริกา ยุโรป มานานแล้ว เราอาจจะเคยเห็นที่สามารถแต่งภาพแบ๊ว ๆ ได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ในไทยเองเมื่อก่อนก็ฮิตอยู่ช่วงหนึ่งเลยนะคะ หลายคนน่าจะทันเห็น และตอนนี้น้องได้เริ่มกลับมาอีกครั้ง

โอกาสที่แบรนด์ ธุรกิจจะคว้าไว้เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมหรือ Physical Evidence มาถึงแล้วค่ะ เพราะเฟรมสามารถปรับแต่งได้ตามโอกาสต่าง ๆ ตามต้องการ ทั้งนี้เพราะความก้าวหน้าของการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ที่ปรับตามพฤติกรรมลูกค้าไม่ค่อยพกเงินสดเหมือนเมื่อก่อน ก็สแกนจ่ายได้เลยทั้งง่ายและสะดวกค่ะ

จากการใช้ Google Trend เพื่อดูการเสิร์จช่วง 12 เดือนย้อนหลัง พบว่ามีการค้นหาตู้ถ่ายรูป สูงสุดในช่วงปีใหม่ 2566 และดรอปลงพร้อมกันในเดือนกุมภาพันธ์ กลับมาอีกครั้งหลังวาเลนไทน์ค่ะ

เดี๋ยวเรามาดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมกันว่าจะเจออะไรน่าสนใจบ้างนะคะ

เห็นการเสิร์จพร้อมกับคำว่า ตู้ถ่ายรูปใกล้ฉัน หมายถึงคนยังไม่ค่อยรู้พิกัดมากนักและต้องการจะหาที่ที่ใกล้ที่สุด ใครสายคอนเทนต์อย่าลืมเน้นเรื่อง Location ให้คนเสิร์จเจอเยอะ ๆ นะคะ นอกจากนี้เราจะเห็นชื่อ Sculpture ซึ่งเป็นร้านถ่ายรูป ที่คนกำลังเสิร์จหาบน Google อยู่ค่ะ

อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของ smartsme คุณปิ่น ลักษิกา จิระดารากุล Founder Sculpture Bangkok ได้เล่าว่าตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการกระแสตอบรับดีมาก ๆ จนต้องมีระบบคิวช่วย เพราะถือว่าตู้จาก Sculpture เป็นตู้แรก ๆ ในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ รวมทั้งหมดราว 40 ตู้

ล่าสุดที่ฮือฮาบนโซเชียลมีเดียเพราะเป็นร้านที่อยู่ในแหล่งฮิตอย่าง สยาม ซอย 5 จุดเด่นคือมีพร็อพให้ใช้ถ่ายรูปเยอะ มี 3 ตู้ไม่ต้องต่อคิวนาน

เห็นเทรนด์เบื้องต้นแล้วอย่างที่นุ่นเกริ่นไปต้นบทความว่าแบรนด์สามารถนำตู้นี้มาเป็นส่วนหนึ่งของ Marketing Mix ได้ หากใครยังเห็นภาพไม่ชัด เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันค่ะ

Physical Evidence ที่เรารู้จักกันดีใน 7Ps Marketing Mix

Physical Evidence หรือองค์ประกอบทางกายภาพ ในที่นี้เราจะพูดถึงแง่ Offline ที่จับต้องได้ ตาเห็น

เป็นสิ่งที่ลูกค้าจะสัมผัสได้จากประสบการณ์การซื้อสินค้า และการบริการของเราค่ะ เช่น การบริการของพนักงาน รับออเดอร์ เสิร์ฟเร็ว, การออกแบบร้าน และสิ่งที่ตกแต่งอยู่รอบ ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ Physical Evidence ที่ไม่ควรมองข้ามถ้าอยากปังในเรื่องการบริการค่ะ จะช่วยเติมเต็มให้ Customer Experience ของแบรนด์ได้อัปเกรดมากขึ้นนั่นเอง

ถ้าใครเคยไปเที่ยวสวนสนุกแล้ว เห็นบูธขายภาพของเราขณะที่เล่นเครื่องเล่น หรือเดินเข้าพาร์ค นุ่นว่าเป็นตัวอย่างที่ใกล้เคียงมากที่สุดเลยค่ะ เหมือนให้ลูกค้าเลือกได้ว่าอยากจะเก็บโมเม้นเหล่านี้ไว้ไหม เด็ก ๆ นุ่นรู้สึกตื่นเต้นมากที่เห็นหน้าตัวเอง งงว่าถ่ายตอนไหนและรู้สึกว่าดรีมเวิร์ลน่ารักจัง แบรนด์ดรีมเวิร์ลเข้ามาอยู่ในใจได้ง่าย ๆ เลย

แต่ปัจจุบันอาจจะต้องคำนึงถึง PDPA และนโยบายความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย การใช้ตู้ถ่ายภาพ ที่ให้ใช้บริการถ่ายตามความพอใจก็เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ดีเลยนะคะ

4 ตัวอย่างธุรกิจที่สร้าง Physical Evidence ด้วย Photobooth ได้

1. ตู้ถ่ายรูป ในสถานที่ยอดฮิต สยาม

แหล่งที่เที่ยวสำคัญ หรือสถานที่ยอดฮิตที่สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการระแวกนั้นได้นอกจากตู้ของ Sculpture ที่ติดเสิร์จแล้วยังมีตู้อื่น ๆ ที่ช่วยให้สยามเป็นจุดรวมพลของใครหลายคนได้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจท่องเที่ยว สถานที่สำคัญที่อยากปั้นให้เป็นไฮไลท์เมื่อเดินทางค่ะ สามารถให้ตู้เรียกแขกมาได้อย่างแน่นอน

2. ตู้ถ่ายรูป Brand Event 

สำหรับแบรนด์ที่อยากสร้างบรรยากาศให้งาน Event สนุกขึ้น ด้วยการหากิจกรรมให้ลูกค้าได้รู้สึกมีส่วนร่วมมากที่สุด ตัวอย่างที่นุ่นได้ไปงาน Dentiste ที่จัด Fan Meeting ให้พรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์อย่างคุณลิซ่า เห็นแถวตู้ Photobooth ยาวที่สุดในบรรยาบูธกิจกรรมเลยค่ะ

เอเจนซี่ที่หาไอเดียอยู่ลองใช้ตู้ถ่ายรูปเป็นอีกแนวทางในการสร้างกิจกรรมให้งานมีบรรยากาศน่ารัก ๆ แบบนี้ได้เช่นกันนะคะ

3. ตู้ถ่ายรูป ในร้านคาเฟ่

ร้านคาเฟ่เกิดขึ้นแทบทุกมุมของกรุงเทพฯ และที่ดัง ๆ ของแต่ละจังหวัด นอกจากคอนเซปต์และรสชาติอาหารจะช่วยดึงดูดลูกค้าแล้วผู้ประกอบการที่มีกำลังทรัพย์เหลืออยากให้ลองเลือกลงทุนกับตู้ Photobooth ง่าย ๆ มีเฟรมเฉพาะร้านของด้วยเอง หรือให้มีภาพสินค้าเช่นเมนูดัง ชื่อร้านอยู่ในเฟรมด้วยค่ะ ส่วนจะค่าบริการนุ่นคิดว่าสามารถเริ่มต้นไก้หลากหลาย รูปเดียวหลักสิบ 2 รูปขึ้นไปหลักร้อย เป็นต้นค่ะ เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกและรู้สึกไม่เปลืองเงิน

4. ตู้ถ่ายรูป ในงานคอนเสิร์ต งานรับปริญญา

โมเม้นสำคัญ ๆ ในวันที่หลายคนรอคอยอย่างงานรับปริญญาหรืองานคอนเสิร์ต เป็นอีกบูธที่แถวยาวเช่นเดียวกันค่ะ หรือแม้กระทั่งงานเฟสติวัลอื่น ๆ ที่มีธีมและคนพลุพล่านลองตั้งตู้นี้ไปเพิ่มบรรยากาศ หรือใครทำธุรกิจด้านออแกไนซ์เอย Supply เอยนุ่นว่าลงทุนค่าตู้ครั้งเดียว แล้วให้เช่าโดยเปลี่ยน Sticker Wrap ให้งานนั้น ๆ ก็น่าจะสร้างรายได้ไม่น้อยเลยนะคะ

เทรนด์ตู้ถ่ายภาพ ถือเป็น Nostalgia Marketing ที่พาย้อนยุค

ในบทความที่อธิบายเกี่ยวกับ การตลาดแบบ Nostalgia นั้นมีการอ้างอิงถึงงานวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่าความคิดถึงสามารถบรรเทาความเหงา ความกังวล และความเบื่อหน่ายได้ และเป็นโอกาสให้นักการตลาดนำมาสร้างอารมณ์ร่วม ดึง Emotional ได้ไม่ยาก กระตุ้นความคิดถึง ซื้อสินค้า หรือเดินทางมาที่ร้านเพราะความเสน่ห์หาเลยก็ว่าได้ค่ะ

และอย่างที่นุ่นบอกว่าเจ้าตู้ถ่ายภาพสามารถปรับใช้ ไปวางไว้ในหลายอุตสาหกรรม นอกเหนือจากตัวอย่างด้านบน ยังมีตัวอย่างของอุตสาหกรรมที่ใช้ Nostalgia Marketing อาทิเช่น 

• TV / Streaming Beverage
• Toys, games 
• Entertainment 
• Fast food 
• Fashion

อ่าน Case Study เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

ปิดท้ายด้วยแนะนำสำหรับนักการตลาดและผู้ประกอบการ 

-มีมากกว่า 1 ตู้ใกล้กัน การถ่ายรูปอาจจะต้องใช้เวลาเลือกท่า เลือกเฟรมซักหน่อย ถึงแม้จะมีเวลานับถอยหลังกดถ่ายก็ตาม ถ้าคุณตั้งอยู่ในที่ที่มีคนเยอะ แนะนำให้มีสองตู้ติดกัน หรือใกล้ ๆ กัน จะได้ไม่เสียลูกค้าไปเพราะไม่ต้องรอคิวนานนั่นเองค่ะ ที่เกาหลีนี่มีเยอะมากเป็นแหล่งเลย เข้าร้านนู่นออกร้านนี้กันสนุกสนาน

-พร็อพตามเทรนด์ อย่าลืมอัปเดตว่าตอนนี้ฮิตอะไรกันหรือเปล่า ให้ซื้อมาเป็นพร็อพเสิร์มเรื่อย ๆ ถ่ายลง Social Media ของร้านสม้ำเสมอนะคะ

-นอกจากให้เก็บเป็นภาพ สติ๊กเกอร์ที่ระลึกแล้ว อย่าชวนลืมโหลดรูปผ่านคิวอาร์โค้ด ตอนนี้หลายตู้มีบริการโหลดรูปแบบดิจิทัลไฟล์ได้ฟรีด้วย แค่สแกนคิวอาร์โค้ดเราก็เข้าไปโหลดได้เลย แต่คนที่ไม่ได้ใช้ตู้บ่อย ๆ อาจจะยังไม่รู้ ทำป้ายแจ้งลูกค้าด้วยนะคะ

หวังว่าทุกคนจะสนุกกับบทความ เทรนด์ ตู้ถ่ายรูป Photobooth ที่ช่วยสร้าง Physical Evidence ได้ทุกธุรกิจ ที่นุ่นตั้งใจมาอัปเดตพร้อมตัวอย่างแก่แบรนด์และเจ้าของธุรกิจได้เห็นภาพแบบชัดมากที่สุด เอาไว้บทความหน้าจะหาไอเดียเทรนด์มาแชร์กันอีกนะคะ ^^