เมื่อไม่นานมานี้แบมได้เข้าไปดูซีรีส์สารคดีทาง Netflix ที่ชื่อว่า Pepsi, Where’s my jet? ด้วยหัวข้อที่น่าสนใจ และวิธีการดำเนินเรื่องผ่านการสัมภาษณ์ที่สนุกและน่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง วันนี้แบมเลยถือโอกาสหยิบเอาเรื่องราวบางส่วนมาเล่าให้ฟัง พร้อมทำการถอดบทเรียนการใช้ Business Plan ด้วยการตีความแบบการตลาดวันละตอน รับรองว่าทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงอย่างแน่นอน
เรื่องราวที่แบมรู้สึกว่าน่าสนใจก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ เพราะแม้จะคิดแผนการมาเป็นอย่างดี แต่แผนของจอห์นก็ยังมีช่องโหว่อยู่ไม่น้อย เขาก็เลยจำเป็นต้องเขียน Business Plan ขึ้นมาอย่างจริงจัง เพื่อทำให้การสะสมแต้มนั้นเป็นระบบมากขึ้น เพื่อทำให้แผนการนี้สำเร็จสามารถสะสมแต้ม และแลกของรางวัลได้อย่างทันเวลา รวมถึงไม่เสียเงินและทรัพยากรไปอย่างสูญเปล่า
ถึงเวลาทำ Business Plan
หลายคนมองว่า Business Plan นั้นมีไว้เฉพาะสำหรับแผนธุรกิจเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าเราจะทำโปรเจกต์ หรือแคมเปญอะไรก็ล้วนแล้วแต่ Business Plan นั้นจะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และสามารถอยู่รอดได้ในทุกๆ สถานการณ์
ทำไมต้องทำ Business Plan?
Business Plan นั้นถือเป็นแผนที่หรือแนวทางที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของสิ่งที่เรากำลังจะทำ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแนวคิด วิธีการ จุดแข็งจุดอ่อน รวมถึงปัญหาต่างๆ ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ และที่สำคัญหากระวัง
Business plan ได้ดี ก็จะเป็นตัวช่วยให้งานของเราประสบความสำเร็จ ไปถึงจุดหมายได้ง่ายขึ้น
ลองมาดูกันว่าการจะเขียน Business plan นั้นมีควรมีรายละเอียดและขั้นตอนอย่างไรบ้าง
1.Business Idea
Business Idea หรือภาพรวมในการทำงาน เป็นแนวคิดหลักในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างความเข้าใจในภาพรวมของสิ่งที่เราจะทำ ไม่ว่าจะเป็น
สำหรับขั้นตอนในการเขียน Business Plan นั้นแบมมองว่าเราสามารถนำมาปรับใช้ได้กับการทำงานในทุกรูปแบบไม่ว่าเป็นการทำแคมเปญเล็กๆ หรือการทำธุรกิจแบบเป็นจริงเป็นจัง เพราะไม่ว่างานไหนก็ล้วนแล้วแต่ต้องการการวางแผนเพื่อให้การทำงานราบรื่น และประสบปัญหาน้อยที่สุดทั้งนั้น
และถึงแม้ว่าท้ายที่สุดในเรื่องนี้แม้ ‘จอห์น ลีโอนาร์ด’ จะไม่ได้เครื่องบินเจ็ทแฮร์เรียร์จาก Pepsi ก็ตาม เพราะการจะต่อสู้ฟาดฟันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีทั้งอำนาจและความพร้อมในทุกๆ ด้านนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จอห์นก็ทำให้เราเห็นแล้วว่าการทำ Business Plan เพื่อวางแผนทุกอย่างให้เป็นระบบนั้นก็ทำให้เขาสามารถเก็บสะสมแต้มได้เจ็ดล้านคะแนน เพื่อแลกของรางวัลในเวลาที่กำหนดสำเร็จจนได้
แม้แคมเปญโฆษณานี้จะสร้างปัญหาให้ Pepsi ไม่น้อย แต่ก็ยังมีแคมเปญอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จและดึงความสนใจจนสามารถเพิ่มยอดขายจาก New Generation ได้เช่นกัน