Montblanc ตอกย้ำภาพลักษณ์ ผ่านมุมมอง Brand Identity System

Montblanc ตอกย้ำภาพลักษณ์ ผ่านมุมมอง Brand Identity System

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักการตลาดและผู้อ่านทุกคน ถ้านึกถึงปากกาหมึกซึมสไตล์คลาสิกที่ดูมีความหรูหรา ถ้าเห็นใครใช้คนนั้นจะดูมีออร่าบางอย่างขึ้นมาทันที ผมเชื่อว่าใครหลายคนก็คงจะนึกถึง Montblanc และล่าสุดแบรนด์ก็ได้เปิดตัวแคมเปญ “100 ปีแห่ง Meisterstück” ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ด้วยจิตวิณญาณของการรังสรรค์ที่ก้าวผ่านกาลเวลา

ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator Prompt: Black-and-white poster, featuring a person walking towards the majestic Montblanc mountain range centered in the background, surrounded by luxury Montblanc products such as watches, stationery, bags, and perfumes. The minimalist, sleek design integrates these products subtly around the walking figure, with an elegant and sophisticated aesthetic. The Montblanc mountain serves as the prominent focal point, symbolizing luxury and aspiration.

วันนี้ผมเลยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อเหมือนยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ผ่านมุมมอง Brand Identity System เราจะได้เห็นถึงความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ จนนำมาสู่แบรนด์ Montblanc ที่เรารู้จักในปัจจุบัน

ก่อนอื่นผมขอจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Brand Identity System แนวคิดของคุณ David A Aker ซึ่งแนวคิดนี้จะอธิบายการเชื่อมโยงในการเชื่อมโยงอัตลักษณ์ของแบรนด์ผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 2 โครงสร้างหลักดังนี้

#Brand essence & Core Identity

ซึ่งก็คือส่วนที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยข้างในจะประกอบไปด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วนคือ

  • Brand Essence หรือ Core brand value ซึ่งก็คือผลรวมของคุณค่าทั้งหมดที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสารและส่งมอบไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราสามารถดูได้จาก Brand philosophy หรือTagline เพราะสิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกถึงตัวตน และจุดมุ่งหมายของแบรนด์นั่นเอง
  • Core Identity จะเป็นการขยาย Brand Essence ซึ่งจะบอกถึงคุณค่าหลักที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับลูกค้าซึ่งจะเป็นกรอบในการพัฒนา Extended Identity

#Extended Identity

เป็นส่วนที่ทำให้แบรนด์มีลักษณะเฉพาะและทำให้ 2 ส่วนที่ได้พูดไปมีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสะท้อนจุดยืนของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น บุคลิกของแบรนด์ ลักษณะผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งเป็นมุมมองทั้ง 4 ประกอบด้วย

Product แบรนด์ในฐานะผลิตภัณฑ์

  • เกี่ยวข้องกับ Product และ Service เช่น คุณภาพ, ประโยชน์ที่ได้รับ, การใช้งาน, และการนำเสนอความแตกต่างจากคู่แข่ง

Organization แบรนด์ในฐานะองค์กร

  • มองแบรนด์ในมุมมองขององค์กร ซึ่งรวมถึงวัฒนธรรมองค์กร, ระบบการจัดการภายใน, และความเป็นผู้นำในตลาด
  • สร้างความเชื่อถือและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นเรื่องคุณค่าขององค์กร ที่สามารถสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้บริโภค

Person แบรนด์ในฐานะบุคคล

  • มองแบรนด์ในเชิง Personality ซึ่งหมายถึงการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เสมือนเป็นบุคคลที่มีบุคลิกเฉพาะตัว
  • อาจรวมถึง การสื่อสารเชิงอารมณ์ กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ความสนุกสนาน, ความน่าเชื่อถือ หรือ ความหรูหรา

Symbol แบรนด์ในฐานะสัญลักษณ์

  • เน้นที่ภาพลักษณ์, สัญลักษณ์, โลโก้, และสิ่งที่เป็นตัวแทนของแบรนด์
  • สัญลักษณ์ สามารถเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ และสะท้อนความเป็นตัวตนของลูกค้า

ในส่วนนี้เราก็จะลองมาวิเคราะห์แบรนด์ Montblanc ด้วยแนวคิด Brand Identity System เราก็จะเห็นถึงความเชื่อมโยงต่าง ๆ ของแบรนด์ที่กลายมาเป็นภาพในความทรงจำของเราในปัจจุบัน

Timeless Creation การสร้างสรรค์ที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลา – Brand Essence

ผมมองว่าสิ่งนี้เป็นเหมือนผลรวมของคุณค่าต่าง ๆ ของแบรนด์ที่ต้องการจะสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย หากเราวิเคราะห์จาก Brand Philosopy หรือปรัชญาของแบรนด์ รวมไปถึง Vosion ของแบรนด์ ก็จะแสดงถึง Keyword หลัก ๆ อย่าง Creation ที่แสดงถึงการรังสรรค์ และ Timeless ที่สะท้อนถึงความยาวนานแต่ก็ยังคงอยู่ไม่ไปไหน

คุณค่าที่กลุ่มเป้าหมายรับรู้ได้ – Core Identity

ซึ่งเป็นการตีความ Timeless Creation ว่าจะมีคุณค่าอะไรที่แฝงอยู่ที่ทำให้เกิดเป็นแก่นแท้ของแบรนด์ได้ ซึ่งผมมองว่ามี Core Identity อยู่ 3 คุณค่า ได้แก่

  • Craftsmanship ความเป็นเลิศทางฝีมือ และความเชี่ยวชาญในงานฝีมือแบบดั้งเดิม
  • Classic Heritage การสร้างสรรค์ประณีตตามสไตล์คนยุโรป
  • Luxury ความหรูหราที่ไม่ว่าจะเวลาผ่านไปแค่ไหนคุณค่าก็ยังคงอยู่โดยเฉพาะรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเรา (Lifestyle)
  • Elegance ความสง่างามที่สะท้อนผ่านการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ผสมผสานความคลาสสิกและแนวคิดสมัยใหม่

จะเห็นว่าทั้ง 4 คุณค่าสามารถสะท้อนไปยัง Brand Essence ได้ทั้งในแง่ของการสร้างสรรค์ และความเหนือกาลเวลา

สิ่งที่จะเชื่อมโยงคุณค่าและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ – Extended Identity

โดย Core Identity จะเป็นกรอบในการออกแบบว่าจะใช้อะไรในการสื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งก็จะแบ่งเป็น 4 มุมมองดังนี้

#Product Design and Product Quality – Brand as Product

Montblanc

Montblanc ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่สื่อถึงความประณีตในงานฝีมือแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและประณีต ซึ่งสะท้อนถึงความหรูหรา อีกทั้งยังต้องอาศัยทักษะช่างฝีมือเพื่อให้สินค้าได้มาตรฐานที่ดีที่สุด รวมไปถึงการให้ความสำคัญผสานนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ากับการออกแบบ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความร่วมสมัย

#Social Responsibility – Brand as Organization

Montblanc

แบรนด์มุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เผชิญหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกและสังคม ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และจัดหาวัสดุในกระบวนการผลิตด้วยมีความรับผิดชอบ

#Personality – Brand as Person

Montblanc แสดงออกถึงบุคลิกเฉพาะตัว เปรียบเสมือนบุคคลที่มีความสง่างาม มั่นใจ และมีระดับ นอกจากนี้ความละเอียดอ่อนในงานฝีมือของแบรนด์ ก็สะท้อนความเป็นคนที่มีความ In Detail ในทุกสิ่งที่ทำ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จและแสดงออกถึงความมั่นใจในแบบเรียบง่ายและมีสไตล์

#Logo ดาวหกแฉก – Brand as Symbol

Montblanc

โลโก้ของแบรนด์ที่เป็นรูปดาวหกแฉก (สัญลักษณ์ของยอดเขา Mont Blanc) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง สะท้อนถึงความเป็นจุดสูงสุดและคงอยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ Montblanc

และเมื่อไม่นานมานี้ Montblanc ได้ออกแคมเปญเฉลิมฉลองครบรอบสำคัญของเครื่องเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะพาผู้ชมกลับไปสู่ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของภูเขามงบล็อง และโลกมหัศจรรย์ของมงบล็องที่ West Anderson ได้จินตนาการขึ้นใหม่ในภาพยนตร์สั้นของเขา

ซึ่งนอกเหนือจากปากกาหมึกซึม Meisterstück อันเป็นเอกลักษณ์ที่มีดีไซน์ทรงซิการ์สีดำ สามวงแหวนทองคำ และปลายปากกาทองคำที่ทำด้วยมือ ภาพแคมเปญใหม่ยังมีคอลเล็กชันหนัง Extreme 3.0 ในสีใหม่คือสีเทาลาเวนเดอร์ พร้อมด้วยลวดลายเรขาคณิตดั้งเดิมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาภาพของมงบล็องในยุค 1920

และตัวล็อค M LOCK 4810 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวล็อคที่ปลอดภัยแต่ใช้งานง่ายที่นักปีนเขาใช้ คอลเล็กชันหนังร่วมสมัยนี้ผสานมรดกอันรุ่มรวยของมงบล็องเข้ากับรูปทรงที่ทันสมัยและโดดเด่น ซึ่งรวมเอาสไตล์และฟังก์ชันการใช้งานไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

จะเห็นว่าแต่ละองค์ประกอบมีการเชื่อมดโยงไปสู่ Brand Identity ซึ่งต้องบอกว่าในบทความนี้อาจจะไม่ได้วิเคราะห์ในทุกแง่มุม แต่มันก็ทำให้เราพอที่จะเห็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแคมเปญล่าสุด ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำในสายตาของลูกค้าอีกด้วย

สรุป

หลังจากที่เราวิเคราะห์แบรนด์ Montblanc ผ่านมุมมองของ Brand Identity System ทำให้เราเข้าใจถึงความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน

แบรนด์ได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการรังสรรค์ที่ก้าวข้ามกาลเวลา ผ่าน Brand Essence ที่เรียกว่า “Timeless Creation” ซึ่งถูกขยายความด้วย Core Identity ที่ประกอบด้วยความเป็นเลิศทางฝีมือ มรดกแห่งความคลาสสิก ความหรูหรา และความสง่างาม

Extended Identity ของแบรนด์ได้แสดงออกผ่านหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับงานฝีมือแบบดั้งเดิม ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บุคลิกภาพที่สง่างามและมั่นใจ รวมไปถึงโลโก้รูปดาวหกแฉกที่สื่อถึงความสูงสุดและความคงอยู่เหนือกาลเวลา

และแคมเปญล่าสุดของ Montblanc ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยการนำเสนอคอลเล็กชันที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงการรักษาคุณค่าดั้งเดิมไปพร้อม ๆ กับการผสมผสานความเป็นยุคสมัยใหม่

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าแต่ละองค์ประกอบของ Montblanc มีความเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว ส่งผลให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำในใจของผู้บริโภค ตอกย้ำถึงการเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งการรังสรรค์ที่ก้าวข้ามกาลเวลาได้อย่างแท้จริง

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

Panuwit Payawang

สวัสดีครับ ชื่อดิวนะครับ จะพยายามนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เขียนบทความดี ๆ ให้กับทุกคนครับ *_*

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *