วิเคราะห์ Insight รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจจาก Social Listening  

วิเคราะห์ Insight รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจจาก Social Listening    

สวัสดีค่ะทุกคน เราได้มีโอกาสเรียนคลาส Social Listening Analytics รุ่นที่ 14 แล้วเราได้ลองใช้เครื่องมือของ Mandala ในการหา insight รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ตอนแรกเราคิดว่าเครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้เราดูมุมของผู้ใช้งานว่ามี sentiment ยังไงบ้าง แต่พอลองได้ทำแบบฝึกหัดและคำปรึกษาดีๆตลอดคลาสเรียนจากพี่หนุ่ย พี่นุ่นแล้ว เราได้เห็นมุมมองที่กว้างออกไปมากกว่าที่เราคิด นอกจากเราจะได้เห็นมุมความคิดเห็นของผู้ใช้แล้ว เรายังได้เห็นมุมมองของ Competitors ที่เราหาไม่ได้จากการทำ Market Survey เลยค่ะ ทำให้เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับ insight ที่ได้มากมากๆ ซึ่งในบทความนี้เราเลยจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ

Keywords ที่ใช้

ครั้งนี้เราลองใช้ Google Trend เพื่อลองหาว่ามอไซค์ไฟฟ้านั้น มีคนใช้คำไหนแทนบ้าง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เรียกแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ มอไซค์ / มอเตอร์ไซค์ / รถจักยานยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆ ค่ะ จากนั้นก็ตัดคำที่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้องออกไป เพราะบางทีเราจะเจอรถของเล่นเด็กไฟฟ้า หรือมอไซค์ไฟฟ้าที่เป็น 3 ล้อค่ะ 

ทีนี้เรามาดูกันว่า insight ที่เจอเราจะแบ่งออกเป็น 7 เรื่องใหญ่ๆ เดี๋ยวเราลองมาไล่กันทีละเรื่องค่ะ 

1. Brand ที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุด

โดยการ mentioned ส่วนใหญ่ก็จะคละประเภทของแต่ละมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเลยค่ะ ทั้งในรูปแบบของการชาร์จไฟบ้าน และการใช้การสลับแบตเอาค่ะ ซึ่งโพสที่เจอส่วนมากก็จะเจอการรีวิวและการโพสจากทางแบรนด์เลยค่ะ 

2. Usage : การใช้งานของมอไซค์ไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ

ถัดมาเรื่องของการใช้งาน อันนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะมีหลากหลายรูปแบบเลย เดี๋ยวสรุปให้ฟังค่ะ

  • เป็น Gadget เอาไว้ลุยน้ำท่วม เพราะสามารถลุยน้ำได้ไม่ต้องกลัวดับ 
  • เป็นยานพาหนะสำหรับคนเมือง เพราะมีดีไซน์ที่ดูมินิมอล และใช้งานง่ายสำหรับการเดินทางที่รถติดๆ ในเมือง 
  • แจกของรางวัล อันนี้ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ เพราะว่าดูเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี บางแบรนด์ก็เริ่มมีการแจกรถไฟฟ้า และแผงโซล่าร์มากขึ้น ทำให้เห็นว่าเริ่มมี awareness ในด้านการรักโลกและที่สำคัญคือสามารถทำให้แบรนด์ดูเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยค่ะ 

3. ข้อดีและข้อเสียที่คนมักพูดถึง 

ด้วยความที่ Keyword ที่เรากวาดมาได้นั้น มีคนที่ mentioned ถึงตรงนี้ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เราเลยขอมารวมไว้เป็นข้อเดียวกัน แล้วก็สรุปให้ฟังด้านล่างค่ะ 

เรื่องของระบบเครื่องยนต์

ข้อดี คือทำให้ความรู้สึกตอนนั่งจะมีความนุ่มกว่าการนั่งรถน้ำมัน และก็ไร้เสียงกวนใจด้วย บางคนก็รู้สึกว่าชอบ และลุยน้ำได้ 

ข้อเสีย คนกังวลเรื่องของแบตเตอร์รี่สำหรับรถไฟฟ้าต่างๆ ทั้งรถมอไซค์และรถยนต์ เพราะถ้าหากร้อนและไหม้ข้ึนมา อาจจะทำให้เกิดความเสีหายต่อคนรอบข้างได้ ทำให้บางคนก็ไม่กล้าจอดใกล้ๆ ค่ะ อีกอย่างนึงคือ บางครั้งเครื่องยนต์ที่เงียบเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดอันตราย ต่อคนหรือรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้าที่ไม่ได้ทันระวังตัว (ปล. คอมเม้นเราอ่านมาแต่ ต้นโพสหายไปแล้วนี้เราแคปไว้ไม่ทัน) 

แต่เราก็แอบเห็นพี่ๆไรเดอร์บางคนติดแตรเล็กๆเพิ่มมาเอง ก็อาจจะเป็นกิมมิคเล็กในการขับมอไซค์ที่เวลาเราอยากที่จะ warning แบบสุภาพมากกว่าการบีบแตร อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง Solution ที่น่าสนใจดีค่ะ แก้ไขได้ง่ายๆ และไม่แพงด้วย ดู creative มากๆเลยค่า

ประหยัด

ข้อดี ของรถไฟฟ้าที่ทุกคนทรากันอยู่แล้วคือทำให้เราสามารถประหยัดค่าน้ำมันได้ บางคนก็บอกว่าค่าไฟยังถูกกว่าค่าน้ำมันตอนนี้อีกค่ะ

ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้แบรนด์มอไซค์ไฟฟ้าหลายๆแบรนด์ที่เปิดบริการให้เช่าอยู่ก็ยังมีบริการดูแลเรื่องของค่าซ่อมพื้นฐานอย่าง บาง ผ้าเบรค และอื่นๆ ให้กับผู้ใช้ด้วยค่ะ ซึ่งแบรนด์ที่เปิดให้เช่าตอนนี้ก็มีหลายแบรนด์มากๆ ทั้งแบรนด์ปั้มน้ำมันสีฟ้า สีเขียว หรือแบรนด์มอไซค์โดยตรงค่ะ ลองไปหาดูได้เลย เช่าใช้เองหรือรับงานก้คุ้มมากๆ 

ลดก๊าซคาร์บอน

อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นข้อดีของรถไฟฟ้าเลย นอกจากจะคุ้มค่าแล้ว ยังสามารถช่วยโลกได้ด้วยค่ะ  

การอำนวยความสะดวกเรื่องที่ชาร์จ

อันนี้หลายคนอาจจะเจอเรื่องของที่ชาร์จที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันกับรถยนต์ได้ ซึ่งก็อาจจะเป็นหนึ่งในข้อเสียที่ทำให้ใครหลายๆคนอาจจะหงุดหงิดได้ค่ะ 

4. แรงกระตุ้นที่ทำให้คนอยากใช้รถมอไซค์น้ำมัน  

หลายๆครั้งการใช้งานมอเตอร์ไซค์ก็ถือว่าเป็นยานพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราในเวลาที่เร่งรีบ และต้องการความคล่องตัว โดยแรงขับเคลื่อนหลักๆที่คนพูดถึงในโซเชี่ยลมากที่สุดก็คือการอุดหนุนจากรัฐบาล ที่ subsidy เรื่องของราคารถไฟฟ้าและการลดภาษีนั่นเองค่ะ อย่างถัดมาเลยก็คือราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้คนทั่วไปก็เริ่มให้ความสนใจในรถมอไซค์ไฟฟ้ามากขึ้นแล้วหละค่ะ 

5. สิ่งที่ทำให้คนลังเลหรือข้อกังวลที่จะใช้มอไซค์ไฟฟ้า 

อันนี้เราได้ไปเจอโพสนึงมาจาก Twitter มีคนถามว่าทำไมรถมอไซค์ไฟฟ้ายังไม่บูมเท่ารถยนต์ ซึ่งอันนี้ก็มีคนมาตอบที่หลากหลายและให้ insight เราได้เยอะอยู่พอสมควรเลยค่ะ

คนขาด Awareness และ Trustworthy 

ในบางทีคนก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับรถมอไซค์ไฟฟ้าว่าประหยัดกว่าน้ำมันอย่างไร เพราะบางคนก็อาจจะแตกเสียงออกไปว่าการใช้น้ำมันถูกกว่าชาร์จไฟบ้าน ทำให้ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นช่องโหว่อย่างนึงที่นักการตลาดของแบรนด์รถมอไซค์ไฟฟ้าต้องออกมาประชาสัมพันธ์ให้คนเข้าใจว่าการใช้รถไฟฟ้าจะช่วยพวกเขาประหยัดได้อย่างไร ทำให้คนรู้จักแบรนด์เราไปในตัวด้วย 

คุณภาพต่ำ / แบรนด์ไม่น่าเชื่อถือ

เราค่อนข้างเห็นด้วย เพราะบางครั้งที่นึกถึงรถมอไซค์ไฟฟ้า คนมักจะถึงรถขนาดเล็กที่คล้ายๆกับสกู๊ตเตอร์ แบรนด์ที่ไม่ได้ดังในเรื่องของการทำมอไซค์จริงๆ ซึ่งการใช้งานตรงนี้อาจจะไม่ได้มีมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หนักเท่ากับรถน้ำมันสักเท่าไหร่ ทำให้คนมองว่าพังง่าย แต่ในปัจจุบันก็มีหลายๆค่ายที่ออกมาผลิตรถมอไซค์ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้เท่าเทียมกับรถน้ำมัน ซึ่งเราก็ถือว่าคุณภาพค่อนข้างโอเคเลยเพราะส่วนมากพี่ๆไรเดอร์ก็นำไปใช้วิ่งงานกันบ่อยมาก และในอนาคตเราก็เชื่อว่าจะมีหลายๆแบรนด์ที่พัฒนารถมอไซค์ไฟฟ้าให้ออกมามีคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ 

ไม่มีศูนย์ซ่อม

อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่คนมักจะตั้งคำถามมากที่สุด เพราะตอนนี้เรายังไม่เห็นศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้ามากเมื่อเทียบกับรถมอไซค์ หรือถ้าหากมีแล้วแบรนด์อาจจะไม่ได้สื่อสารมากเท่าที่ควรค่ะ 

ราคาแพง

เราขอมองเรื่องราคาออกเป็น 2 ส่วนในความคิดเรานะ คือราคาแพง เพราะคุณภาพต่ำกว่าราคา กับอีกอันนึงคือราคาแพงกว่ารถน้ำมัน โดยเรามองว่าเรื่องคุรภาพทางแบรนด์ควรคุยกับ R&D หรือ Techncal team เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ส่วนเรื่องของราคาที่แพงกว่าน้ำมัน มองว่าสามรถแก้ไขได้ด้วยวิธีการสื่อสาร ที่มำให้คนเข้าใจว่าทำไมถึงมีราคาที่แพงกว่า แล้วดีกว่ารถน้ำมันยังไง 

ระยะทางที่จำกัด

ข้อนี้เป็นคำถามยอดฮิตของคนที่สนใจรถมอไซค์ไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้เราเห็นหลายๆแบรนด์ก็ทำรถออกมาที่วิ่งได้ค่อนข้างไกลอยู่พอสมควร มีตั้งแต่ 50-120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเลยแหละค่ะ 

รูปทรงไม่ถูกใจ

ที่ได้พูดถึงด้านบนไปว่าเมื่อก่อนเราจะเห็นรถมอไซค์ไฟฟ้ารูปทรงเหมือนรถป๊อป ทำให้บางคนก็ไม่ชอบรูปทรง โดยเฉพาะพี่ๆไรเดอร์บางคน เพราะว่าการขับรถเล็กๆแล้วบรรทุกกระเป๋าไรเดอร์ เวลาขับทำให้รู้สึกเหมือนเป็นกอลิล่า แต่ปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ที่เริ่มพัฒนารถมอไซค์ไฟฟ้าให้มีรูปทรงที่ถูกใจกับการใช้งานในหลายรูปแบบมากขึ้นค่ะ 

ถนนไม่รองรับการใช้งาน

ในปัจจุบันถนนของประเทศไทยก็อาจจะยังไม่เรียบ เป็นหลุมบ่ออยู่บ้าง ทำให้เวลาที่ขับรถมอไซค์ล้อก็จะลงไปกระแทกกับหลุม ยิ่งรถมอไซค์ไฟฟ้ามี่มีขนาดล้อเล็ก อย่างเช่น 10 นิ้ว มักจะมีปัญหาเวลากระแทกไปแล้วโช๊คจะพังได้ บางคนหน้ากากแตกกันเลยทีเดียวค่ะ ทำให้ใครหลายๆคนโดยเฉพาะพี่ๆไรเดอร์ก็อยากที่จะหันมาใช้ล้อ 12 นิ้วกันมากขึ้นค่ะ

6. Perception คนมองรถมอไซค์ไฟฟ้ายังไง และมีแนวโน้มยังไงบ้าง 

คนมี Awareness เรื่องรักโลก เพราะอย่างตัวอย่างที่นำมาให้ดูคือหลายๆแบรนด์เริ่มมีการนำรถยนต์ไฟ้าออกมาใช้งาน แต่ก็มีหลายๆคนที่ยังนึกถึงการเปลี่ยนรถมอไซค์น้ำมันให้เป็นรถไฟฟ้าด้วย เพื่อช่วยให้ลดมลพิษ และเป็นมิตรต่อโลกค่ะ 

คนพร้อมที่จะเปลี่ยนมาใช้รถมอไซค์ไฟฟ้ามากขึ้น ถ้าหากมี infrastucture ที่แข็งแรง และระบบที่ทำให้พัฒนา user experience ที่ดีขึ้นได้ค่ะ 

สรุปจากความเห็นของเรา

ตอนนี้แนวโน้มการใช้งานรถมอไซค์ไฟฟ้าน่าจะเติบโตขึ้นได้ จากการมี Awareness บางส่วนของคนไทยและด้วยภาวะเศษฐกิจที่ผลักดันให้รถไฟฟ้าเติบโตขึ้นได้ แต่ตอนนี้ปัญหาหลักๆที่ทำให้คนยังลังเลที่จะใช้งานรถมอไซค์ไฟฟ้าก็คือเรื่องของความน่าเชื่อถือในแบรนด์ คุณภาพ ประโยชน์ที่จะได้รับ และ Infrastructure ที่พร้อมทั้งการชาร์จ ตู้สลับแบต และถนนที่รองรับต่อการขับขี่ค่ะ 

การผลักดันให้เกิด Ecosystem ของมอไซค์ไฟฟ้ามีทั้งการแก้ไขด้าน Technical, Marketing และรัฐบาลที่ออกมาร่วมกันพัฒนาให้รถมอไซค์ไฟฟ้าออกมามีคุณภาพมากขึ้นและทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตของเราได้อีกด้วยค่ะ 

Social Listening Tools ช่วยให้เราไปทำงานต่อได้ยังไง?

จากที่ได้เรียนคลาส Social Listening Analytics มาเราได้เห็นทั้งภาคทฤษฎี และลงมือปฎิบัติจริงพร้อมกับ Case study ประกอบทั้งคลาส ทำให้เราเข้าใจ logic ของการดึง data ที่ได้จากการใช้ Social listening tools ได้ง่ายขึ้น พร้อมช่วยให้เราเอามาประกอบการคิด Strategy สินค้า, การวาง brand positioning, Marketing และเรื่องของ R&D ได้จริง

เราชอบการหาข้อมูลจาก Social Listening Tools มากๆ ได้ insight รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ทำ Market Research ด้วยวิธีต่างๆ ทั้ง Quanlitative และ Quantitative แต่บางครั้งคำถามที่เราเอามาถามก็ค่อนข้างอยู่ในกรอบเดิมๆ แต่การที่เราใช้ Social Listening Tools เข้ามาช่วย เราสามารถกวาดความคิดเห็นของผู้คนออกมาได้จริงๆ และได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากการทำ รีเสิร์ชแบบเดิมๆค่ะ

ถ้าใครอยากเรียนรู้การใช้ Social Listening ด้วยตัวเอง หรืออยากให้ทีมของตัวเองใช้เป็น สามารถสมัครเรียนสดทางออนไลน์กับการตลาดวันละตอนด้วยตัวเองได้

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening เน้น Workshop ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง รุ่นล่าสุด ศุกร์สุดท้ายของเดือน เปิดแล้ว
เรียนสดทางออนไลน์ ผ่าน Zoom เต็มวัน 9:00 – 15:00
ค่าเรียนคนละ 9,900 บาท รับจำกัดรุ่นละ 20 คน (ถ้าเต็มรุ่นนี้ต้องขอให้รอรุ่นหน้า)
อ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้

https://bit.ly/sociallisteningclass

ขอแค่คุณใช้ Social Listening เป็นด้วยตัวเองก็จะพบว่ามี Data มากมายรอให้ใช้งาน และยังมี Consumer Insights ล่องลอยอยู่อีกมาก เหลือแค่ว่าใครจะหยิบมาใช้โอกาสได้ก่อน

Pitchakorn Sirimonta

Freelance at Everyday Marketing.co and current social media management who has a passion for business innovation and believe in data-driven marketing.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน