IKEA Japan ผุดแคมเปญปล่อยเช่า “Tiny House” ท้าพิสูจน์ เล็กแค่ไหนก็อยู่ได้จริง
เคยเป็นเหมือนกันไหมคะ? ถ้าเราเลือกแบรนด์ไหนเป็นที่ 1 ในใจแล้วก็มักจะเลือกซื้อ เลือกใช้แต่แบรนด์นั้น การจะเปลี่ยนใจไปรักแบรนด์อื่นคงทำได้ยาก
เพราะมีผู้บริโภคจำนวนมาที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ เลยทำให้แบรนด์ที่เราคุ้นหูคุ้นตากันดีอย่าง IKEA อยู่ยากขึ้นในประเทศญี่ปุ่น สาเหตุจะเป็นเพราะอะไร และทาง IKEA จะแก้เกมด้วยวิธีไหน มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
IKEA ไม่ค่อยได้รับความนิยมในญี่ปุ่น
แม้ว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดนอย่าง IKEA จะเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในหลายๆ ประเทศ แต่ในแระเทศญี่ปุ่นเอง IKEA กลับไม่เป็นเป็นที่นิยม และไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก
เนื่องจากในญี่ปุ่นนั้นคนจะนิยมเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ Nitori โฮมเซ็นเตอร์ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องครัว เครื่องนอน สินค้าตกแต่งบ้าน รวมถึงของใช้ในบ้านดีไซน์เก๋กู๊ดให้เลือกหลากหลาย ในราคาสบายกระเป๋า ทำให้เวลาคนญี่ปุ่นจะซื้อของเข้าบ้านแต่ละที ก็มักจะนึกถึง Nitori เป็นแบรนด์แรก จนไม่เหลือที่ว่าในใจให้กับ IKEA เท่าไร่นักนั่นเอง
ทัศนคติเกี่ยวกับบ้านที่เปลี่ยนไปเมื่อโรคระบาดมาเยือน
ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมา ทัศนคติของคนญี่ปุ่นที่มีต่อบ้านก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่มองว่ามีบ้านไว้เพียงเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือใช้นอนเท่านั้น ทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งบ้าน และรู้สึกว่าการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้จำเป็นมากนักเช่นกัน
แต่เดี๋ยวนี้ ความคิดของคนเปลี่ยนไป เมื่อมนุษย์ออฟฟิศต้องปรับตัวเองเข้าสู่โหมด Work from home เพื่อเว้นระยะห่าง และลดการแพร่กระจายของเชื้อ สำหรับในรายที่บ้านมีพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ ก็คงจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นัก แต่ในรายที่ต้องอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก ที่มีพื้นที่ไม่มากนักก็ต้องพยายามมองหาโซลูชั่นในการแก้ไข้ปัญหาในการบริหารจัดการพื้นที่ เพื่อให้บ้านยังคงเป็นที่พักผ่อน และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
IKEA แก้ปัญหาด้วยการทำให้เห็น
สำหรับ IKEA ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก ถ้าอยากได้รับความสนใจ บอกเลยว่าจะไปสู้ด้วยราคาก็คงยาก เพราะแบรนด์ Nitori ที่เป็นคู่แข่งนั้นนอกจากจะเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่มีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่เอื้อมถึงได้ ทำให้ IKEA ต้องพยายามแข่งขันในด้านอื่นๆ แทน
เพราะฉะนั้น IKEA ก็เลยจัดทำแคมเปญ Tiny Homes ที่เป็นการเปิดให้เช่าอพาร์ทเมนต์ขนาด 10 ตร.ม. ที่ตกแต่งครบครันในโตเกียว ในราคาเพียง 99 เยน/เดือน โดยเปิดรับสมัครผู้เช่าเฉพาะสมาชิก IKEA Family เท่านั้น
แคมเปญนี้ทำขึ้นเพื่อส่งเสริมโซลูชั่นการประหยัดพื้นที่ของ IKEA และเป็นแคมเปญเปรียบเหมือนแรงบันดาลใจของคนยุคใหม่ที่ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์แบบหนึ่งห้องนอนหรือสตูดิโอขนาดเล็ก และมีกำลังทรัพย์น้อย จนทำให้เช่าอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่กว้างขวางไม่ไหว แต่ถ้าใช้เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA แม้ที่พักจะเล็กก็สามารถแก้ปัญหาในเรื่องพื้นที่ใช้สอยได้
โดย IKEA แสดงให้เห็นการแก้ปัญหานี้ผ่าน VDO โดยใช้ตุ๊กตามาสคอตน้องฉลามขนาดเท่าตัวจริงเป็นตัวดำเนินเรื่อง เนื้อหาวิดีโอแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายของเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเป็นได้ทั้งโซฟาและเตียงได้ในชิ้นเดียว หรือชั้นเก็บของแบบมีล้อเลื่อน ทำให้เมื่อไม่ใช้ก็สามารถเลื่อนออกไปในพื้นที่อื่นได้ไม่เกะกะ ทำให้เห็นว่าแม้ห้องจะเล็ก แต่ก็สามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างสบาย
ซึ่งผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ก็คือเป็นคนสนใจอยากมาเช่าห้องจริง บางคนเห็น VDO แล้วอยากได้เฟอร์นิเจอร์แบบนั้นบ้างจึงเข้าไปดูเฟอร์นิเจอร์จริงกันถึงในโชว์รูม และแน่นอนที่สุดว่าแคมเปญนี้สามารถเข้าไปช่วงชิงพื้นที่ในใจผู้บริโภค จนทำให้ชื่อ IKEA ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นได้ในที่สุด
บอกเลยค่ะว่าแบรนด์ไหนที่ตกเป็นเจ้ารองในตลาดก็สามารถเอากลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ได้นะคะ เราไม่จำเป็นต้องกระโดดลงไปในสงครามราคาอีกต่อไป เพราะทำอย่างนั้นก็คงมีแต่เจ็บตัว แต่ก่อนอื่นเราจะต้องทำความเข้าใจสินค้าของเราให้ดีว่ามีจุดเด่นอะไร สามารถตอบ Painpoint ผู้บริโภคได้ในจุดไหนบ้าง แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาชูให้เป็นจุดเด่น และ Educate ให้ผู้บริโภคเข้าใจในความโดดเด่นและแตกต่าง เพียงเท่านี้เราก็จะได้กลุ่มผู้บริโภคที่เข้าใจ และเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราอย่างแท้จริงแล้วล่ะค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านกลยุทธ์สนุกๆ ของแต่ละแบรนด์ สามารถติดตาม Case Study ต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ในบทความหน้านุ่นจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ
ที่มา: hypebeast.com
