Influencer ปลอดเนื้อสัตว์ สายเจ วีแกน มังสวิรัติต้องรู้จัก เพจมังสวิรัติ กินเจให้ต่างจนคนตามเกินครึ่งแสน

ใกล้เทศกาลเจเข้ามาทุกที ทำให้แบรนด์อาหารทั้งหลายต่างพยายามมองหา Influencer สายเจ วีแกน มังสวิรัติที่มีคุณภาพทั้งในเรื่องของ Content และผู้ติดตามควบคู่กัน วันนี้ผมมีเพจสายเจที่คนกิน Vegan/เจ/มังสวิรัติ เป็นประจำรู้จักดีมาแนะนำ ซึ่งชื่อเพจเขาก็ชัดเจนในคาแรคเตอร์โดยไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะเพจเขาชื่อว่า มังสวิรัติ เจ้าของเดียวกับเว็บ www.mangsawirat.com นั่นเองครับ

ลองมาทำความรู้จักกับคุณกอล์ฟ กรพิพัฒน์ การุณยเลิศ เจ้าของเพจมังสวิรัติ ที่สายอาหารเจ หรือ Vegan ที่มีความ Unique มากๆ ที่ดูเหมือนว่าการทำคอนเทนต์ที่มีเทศกาลสั้นๆ แค่ปีละครั้งนั้นมีเคล็ดลับอย่างไรที่สามารถเล่าเรื่องการกินเจ หรือ Vegan ให้สนุกได้ทั้งปีจนวันนี้คนติดตามเกินครึ่งแสนไปแล้ว ถือว่าบทความสัมภาษณ์นี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้อุ่นเครื่องเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึงไปพร้อมกัน

แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณกอล์ฟทำเพจมังสวิรัติขึ้นมาครั้งแรกคืออะไรครับ

เพจมังสวิรัติ เริ่มต้นมาเมื่อ 8 ปีที่แล้วครับ เอาจริงๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรไว้เยอะหรือไว้ไกลเท่านี้เลย เรื่องมันมีแค่ว่า ผมทานมังสวิรัติมาได้ 25 ปีละ คนรอบข้างที่ไม่ได้เป็นสายมังสวิรัติมืออาชีพก็จะถามกันบ่อยๆ ว่า

“ช่วงนี้แก้บน ต้องกินเจ มีร้านไหนแนะนำบ้าง?”

“วันนี้วันเกิด อยากกินมัง ไปกินอะไรดี?”

คำถามประเภทนี้ผมจะต้องตอบเยอะมากเลยครับ บวกกับตอนนั้นเฟซบุ๊กในไทยก็เริ่มฮิตสร้างเพจกัน ผมกับเพื่อนก็เลยลองสร้างเพจขึ้นมาเล่นๆ แบบว่าไปกินอะไรก็ถ่ายรูปมาลง เห็นอะไรเป็นข้อแนะนำดีๆ เกี่ยวกับคนทานเจ ทานมัง ทานวีแกน ก็หามาเขียนๆ ไว้ เอาจริงๆคือทำกันสนุกๆ และไม่คิดว่ากลุ่มคนที่กินแบบเราจะมีเยอะขนาดนี้ด้วย

จนมาถึงวันนี้คนตามเพจเรามีอยู่ 50,000 กว่าคนแล้วครับ เท่าที่ทราบเราน่าเป็นเพจสายนี้ ที่มียอดติดตามมากที่สุดในไทยนะครับ พอคนตามเยอะขึ้นก็เริ่มสนุกมากขึ้นเลยมี เว็บไซต์ มี YouTube มี Instagram ตามมาให้สนุกกันจนถึงวันนี้ครับ

ท่ามกลางเพจแนวมังสวิรัติที่มีไม่น้อย อะไรคือความต่างระหว่างเพจมังสวิรัติเรากับเพจอื่นที่ทำให้คนเลือกอ่านเพจเราท่ามกลางตัวเลือกมากมาย

เพจเรา Real มากครับ (หัวเราะ) ไม่ได้เน้นรูปสวยหรือคอนเทนต์อะไรหรูหราเลย แบบประมาณว่าใช้กล้องมือถือ เจออะไรแบบไหนก็ถ่ายรูปก็คุยกันไปแบบนั้น เหมือนที่เวลาส่งให้เพื่อนดู คนเลยเข้าถึงค่อนข้างง่าย บวกกับหลัง ๆ เรามีรีวิวเป็นคลิปวิดิโอค่อนข้างเยอะ เราอัพลงยูทูปค่อนข้างต่อเนื่อง เลยทำให้ฐานของผู้ติดตามในแต่ละสื่อของเรามีค่อนข้างมากครับ พอลงคอนเทนต์ใหม่ๆ มันก็จะช่วยดันๆ กันไปด้วย

มังสวิรัติ เจ วีแกน จะมีจุดยืนทางการกินที่แตกต่างกันอยู่นิดหน่อยนะครับ โดยมังสวิรัติ จะยังทานไข่ดื่มนมอยู่ เจกับวีแกนจะไม่ทานนมทานไข่เลย และเจจะมีเรื่องของผักฉุนบางชนิดที่ห้ามทานด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วตลอด20กว่าปีที่ผ่านมา ผมทานเป็นมังสวิรัติครับ คอนเทนต์ของเราเลยสามารถครอบคลุมทั้งสาม Segment นี้ได้หมด ร้านมังเราก็เข้า ร้านเจเราก็กิน ร้านวีแกนเราก็ไป จุดยืนที่เหมือนกันก็คือไม่ฆ่าสัตว์ครับ เพจเราเลยเรียกว่าเป็นตลาดแมสสำหรับวงการนี้ครับ

และ อีกจุดยืนที่เป็นหัวใจของเพจมังสวิรัติที่เราทำมาโดยตลอดคือ เราพยายามเสนอคอนเทนต์ในเชิงบวกครับ แบบว่าการกินมัง กินเจ กินวีแกน ดียังไง อร่อยยังไง เรื่องนี้สำคัญเลยครับ อยากให้การทานมังสวิรัติเป็นอีกทางเลือกนึง

จะทานบ้างไม่ทานบ้างก็เอาที่สบายใจไม่ได้บังคับกันครับ เหมือนเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ทั่วๆไป เอาที่เราคิดว่าดีต่อตัวเอง ดีต่อใจดีกว่า ไม่ฝืนใจ หรือไม่เสนอคอนเทนต์แนวฮาร์ดคอร์ แบบสัตว์โดนฆ่าโหดๆ หรือบอกถึงข้อเสียของคนที่ไม่ได้ทานแบบเรา เพราะเอาจริงถ้าเล่นเรื่องแบบนี้มันมีผลวิจัยเถียงกันไปมามากมายไม่รู้จบครับ

จากวันแรกที่เริ่มทำเพจจนถึงวันนี้ เพจมังสวิรัติมีการพัฒนาหรือเติบโตไปอย่างไรบ้าง

เช่น ตอนเพจการตลาดวันละตอนทีแรกเริ่มทำเพจเพราะหวังจะเป็นเพจอัพเดทแคมเปญการตลาด ไปๆ มาๆ กลายเป็นเพจที่ให้ความรู้ด้าน Data และ Personalization ซะอย่างนั้น

มองย้อนกลับไปแล้วยังขำเลยครับ ว่าแรกๆ ถ่ายคลิปอะไรกันลงไป ภาพเขย่ามากๆ ดูเองยังมึนเลยครับ 555 จริงๆ จุดยืนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนะครับ ในใจผมลึกๆ ผมทำเพจนี้เพราะอยากให้คนเห็นว่าการทานเจ ทานมัง ทานวีแกน มันไม่ใช่เรื่องแปลก และสามารถใช้ชีวิตปรกติเหมือนคนธรรมดาได้ เดินเข้าร้านอาหารตามสั่งก็สั่งให้ป้าผัดผักราดข้าวให้กินได้ง่ายๆ การทานมังสวิรัติ ก็เหมือนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อยากให้หลายๆคนมาลองสัมผัสดูครับ ทานสั้นๆไม่กี่วันก็ได้ จุดยืนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เราสร้างเพจมาก็ยังคงเดิมเลยครับ แต่จะมีการต่อยอดเสียมากกว่าครับ

พอคนตามเพจเราค่อนข้างเยอะ เราจะพอเห็น Data ว่าเค้าชอบอะไรบ้าง เราเลยมีคอนเทนต์พวก Lifestyle คอนเทนต์สุขภาพ และการดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น  ไม่ได้ชวนกินอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อนละ ยิ่งในกลุ่มไลน์สแควร์มังสวิรัติ ยิ่งสนุกเลยครับ เป็นอีกช่องทางนึงที่ทุกคนได้แลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งร้านอาหาร หรือวิธีการดูแลสุขภาพด้วยครับ

ล่าสุด Facebook เพิ่งปรับ Algorithm ใหม่ ทางเพจมังสวิรัติมีการปรับตัวอย่างไร

เพจมังสวิรัติให้ความสำคัญกับเรื่อง Data มากครับ เราจึงปรับตัวมาค่อนข้างตลอด เราจะมีการประเมินกันอยู่ตลอดครับ ว่าตอนนี้ลูกเพจของเรากำลังสนใจอะไรกันอยู่ พูดเรื่องอะไรไปแล้วเค้าถึงจะไม่เบื่อกัน เรียกง่ายๆ เลยว่าเราฟังลูกเพจเราอยู่ตลอดเวลาครับ

แล้วพยายามตอบสนองเค้าให้ทัน บวกกับตอนนี้เรามีกรุ๊ปด้วยครับ ชื่อว่า “มังสวิรัติ Behind the scenes” ตอนนี้คนตามในกรุ๊ปอยู่ที่ประมาณ 10,000 กว่าคนครับ จะเป็นกรุ๊ปพูดคุยกันเรื่องมังสวิรัติ เจ และวีแกน เป็นศูนย์กลางให้มาพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ขอคำปรึกษา แนะนำร้านอาหาร สูตรอาหาร และเปิดให้ขายของกันได้เลยครับ (สะดวกมากครับ ผมไปแอบช้อปอยู่บ่อย ๆฮ่า ๆ) เราเลยจะเห็นเทรนด์จากบทสนทนาในกรุ๊ปนี้กันด้วย พอมีคอนเทนต์ใหม่ก็เอาไปโพสในกรุ๊ปด้วย เลยถือว่าเป็นการเพิ่มจำนวน Reach ได้มากหลังจากการปรับ  Algorithm ของ Facebook

มองอนาคตของเพจมังสวิรัติไว้อย่างไรต่อ

ถ้าอิงจาก Trend และผู้ติดตามของเราที่เพิ่มขึ้นทุกวัน มันบอกได้เลยครับ ว่าตลาดเจ มังสวิรัติ วีแกน Plant-based บ้านเรา มันกำลังโตขึ้นไปแบบก้าวกระโดดมากๆ โตจนผมตกใจเลยครับ ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนกินอะไรคล้ายๆเราแบบนี้อยู่มากขนาดนี้ในประเทศไทย รวมถึงทั่วโลกด้วย  

ผมเลยฝันไว้ค่อนข้างไกลครับ ว่าอยากทำให้สื่อของเพจมังสวิรัติ เป็นเหมือนตัวกลางแหล่งข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจทางด้านนี้มารวมตัวกัน และอยากทำเป็นภาษาจีน และภาษาอังกฤษด้วยครับ จริงๆ บ้านเราคือสวรรค์ของคนทานมังสวิรัติทั่วโลกเลยนะครับ โดยเฉพาะเทศกาลกินเจ ชาวต่างชาติที่เป็นวีแกนเข้ามาทัวร์บ้านเราเยอะมาก

แบรนด์แบบไหนบ้างที่เหมาะกับเพจมังสวิรัติในการจะทำ Content ร่วมกัน

ได้หมดครับ อย่าเบียดเบียนชีวิตสัตว์ก็พอ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าผมเล่าเกี่ยวกับแบรนด์ที่มาร่วมงานในอดีตแล้วประสบความสำเร็จดีกว่าครับ จะสามารถแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรกแน่นอนคือแบรนด์ที่ Target กลุ่มคนทานเจ ทานมังสวิรัติโดยตรง เช่น ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีร้านอาหารมากมายรวมถึง Shopping Mall ต่างๆ ที่จะมีการจัดเทศกาลอาหารเจ กลุ่มนี้จะตรงมากครับ เพราะช่วงเทศกาลกินเจ Engagement Rate เราจะสูงมากๆ เพราะเราพูดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดทั้งในและนอกเทศกาลครับ

กลุ่มที่สองคือแบรนด์ที่มี Target ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับเรามาก เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ, Wellness Center, สินค้าที่ไม่มีการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ แบรนด์เหล่านี้ก็ตรง Target มากครับ

แนวทางการทำคอนเทนต์แบบไหนที่ไม่เวิร์คจากประสบการณ์ที่ทำเพจมังสวิรัติมา เพื่อเป็นแนวทางให้นักการตลาดรู้ว่าแบบไหนที่ไม่ควรทำ

ผมไม่ได้หวงคำตอบนะครับ แต่อยากจะย้ำให้เรากลับไปฟังลูกเพจเราดีที่สุดครับ แต่ละเพจจะมี Data ที่ไม่เหมือนกันครับ เราต้องดูข้อมูล Data ของเพจเราให้กระจ่างแล้วเอามาใช้ อันนี้จะเวิร์คสุดๆครับ ลองทำ A/B testing ง่ายๆ ก็ได้นะครับ

ไม่มีอะไรเวิร์คไปกว่าการตั้งใจฟังเสียงของคนในเพจอีกแล้วครับ ที่ผมตอบแบบนี้เพราะจริงๆ แต่ก่อนก็เคยลองพยายามทำตามวิธีที่เพจดังๆ ทำแล้วสำเร็จมาลองนะครับ สรุปพอลงเพจเรา เงียบกริบ ฮ่าๆๆ

สุดท้าย ฝากอะไรถึงนักการตลาดที่สนใจจะร่วมงานกับเพจมังสวิรัติหน่อยครับ

ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวกับนักการตลาดทุกๆ ท่านดีกว่าครับ (หัวเราะ) เพจมังสวิรัติเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่กินเจ กินมัง กินวีแกน ที่มีฐานข้อมูลกลุ่มลูกค้าใหญ่และแน่นมากครับ เพจเราคลุกคลีกับตลาดนี้มานานมาก ผมก็ทานมังสวิรัติมาเกือบทั้งชีวิตครับ เป็น Influencer สายเจ มังสวิรัติ วีแกนได้เต็มตัว

ถ้าหากนักการตลาดท่านไหนกำลังมองหาสื่อแนวนี้อยู่ หรือธุรกิจไหนกำลังมองหา Data ในการทำการตลาดกลุ่มนี้อยู่ มาร่วมงานกันนะครับ

การตลาดวันละตอนสรุปทิ้งท้าย

จากที่ได้คุยกันมาทั้งหมดผมคิดว่าการที่เพจมังสวิรัติสามารถเติบโตได้จนกลายเป็น Influencer สาย Vegan เบอร์ต้นๆ ของไทยมาจากสองข้อหลัก

1. คุณกอล์ฟเป็นคนกินจริง อินจริง เมื่อไหร่ที่เจ้าของเพจทำด้วยความอยากของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น ทำด้วยความอยากจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองสนใจให้คนที่สนใจแบบเดียวกัน เมื่อนั้นเพจก็จะมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกับเพจอื่น แน่นอนว่าท่ามกลางเพจมากมายร้อยพันไม่เว้นแม้แต่เพจอาหารเจ แต่การจะทำเพจอาหารเจหรือเป็น Influencer แบบปลอดเนื้อสัตว์ ให้ต่างได้ ต้องมาจากคาแรคเตอร์ของคนทำคอนเทนต์เป็นจุดตั้งต้นครับ
2. ฟังเสียง Audience คุณกอล์ฟพยายามบอกเสมอว่า ที่เพจมังสวิรัติยังคงโตต่อเนื่องได้เพราะไม่ได้ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จัก Insight ของคนอ่าน คุณกอล์ฟติดตามศึกษาลูกเพจอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้พวกเขาสนใจเรื่องอะไร โพสแบบไหนแล้วชอบ มีคอมเมนต์กันอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้ทำให้เพจมังสวิรัติของคุณกอล์ฟยังคงอัพเดทตามเทรนด์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคสายเจ สายมัง หรือสายวีแกนก็ว่าได้ครับ

เป็นอย่างไรครับกับบทสัมภาษณ์คุณกอล์ฟ เจ้าของเพจมังสวิรัติ Influencer สาย Vegan/เจ/มังสวิรัติ ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนแถมยังมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากทำให้คนสนุกกับการกินเจหรือกินผักได้มากกว่านี้

ขอบคุณคุณกอล์ฟมากที่อุตส่าห์เข้ามาแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ดีๆ ในการทำเพจ ผมเชื่อว่าบทความนี้น่าจะให้อะไรกับคนทำเพจได้ไม่น้อย แถมยังให้แง่มุมดีๆ กับนักการตลาดที่กำลังอยากรู้ว่าถ้าจะทำการตลาดในช่วงเทศกาลกินเจควรจะต้องเลือกเพจแบบไหนครับ

อยากรู้จักเพจมังสวิรัติเพิ่มเติม เชิญตามลิงก์นี้ไปได้เลยครับ > https://www.facebook.com/mangsawirat

อ่านบทความที่เกี่ยวกับ Vegan ต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=vegan