Discount Strategy เอาเสียงรบกวนมาแลกส่วนลดหูฟัง Bose กับ Noise-O-Meter

Discount Strategy เอาเสียงรบกวนมาแลกส่วนลดหูฟัง Bose กับ Noise-O-Meter

แคมเปญการตลาดที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ ใช้กลยุทธ์ Discount Strategy ที่เป็นการแจกส่วนลดอย่างสร้างสรรค์ที่เป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพราะเมื่อหูฟัง Bose ชูจุดขายเรื่องการตัดเสียงรบกวนขั้นเทพ สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อกระตุ้นให้คนไม่ใช่แค่รับรู้ในจุดขายนี้แต่ยังทำให้คนสนใจกับจุดขายนี้ด้วย นั่นก็คือการเอาเสียงรบกวนภายในบ้านในช่วง Work From Home มาเป็นส่วนลดเพื่อแลกซื้อหูฟัง Bose กับแคมเปญที่ชื่อว่า Noise-O-Meter

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง Work From Home จาก COVID-19 ที่ผ่านมาทำให้หลายคนรับรู้ว่าบ้านของตัวเองนั้นไม่เหมาะกับการนั่งทำงานนานๆ ทั่งวันเหมือนที่ออฟฟิศเสมอไป ไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์ไม่พร้อม โต๊ะไม่ดี เน็ตไม่แรงพอ หรือแม้แต่เสียงรบกวนภายในบ้านที่คอยแทรกเข้ามารบกวนสมาธิตลอดเวลา และนั่นก็เลยทำให้ Bose มองเห็นโอกาสที่ดีว่านี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนที่จะต้องการหูฟังดีๆ สักอันที่เอาไว้ตัดเสียงรบกวนภายในบ้านแน่ๆ

ทาง Bose เลยสร้างเว็บไซต์พิเศษขึ้นมาสำหรับแคมเปญ Noise-O-Meter นี้ ที่ให้คนที่เบื่อเสียงรบกวนภายในบ้านและกำลังมองหาหูฟังคุณภาพดีที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนอยู่ได้เจอกับพวกเขา สิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราต้องทำนั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เว็บไซต์ Noise-O-Meter จากนั้นก็เปิดไมโครโฟนของเครื่องเพื่อให้เสียงรบกวนทั้งหลายวิ่งเข้าไปที่เว็บ แล้วทางเว็บก็จะทำการประมวลผลออกมาว่าเสียงรบกวนที่ได้ยินนั้นคือเสียงอะไร เสียงนั้นมีความดังเท่าไหร่ มีความน่ารำคาญขนาดไหน แล้วทาง Bose ก็จะมอบส่วนลดให้ตามความดังและความน่ารำคาญภายในบ้านคุณครับ

ฟังดูเรียบง่ายมากสำหรับผู้บริโภคหรือคนที่สนใจอย่างเราๆ แค่เอาลำโพงไปจ่อใกล้ๆ อะไรก็ตามที่ส่งเสียงดังน่ารำคาญประมาณ 15 วิ เท่านั้นเอง!

แต่เดี๋ยวก่อนครับ ผมจะบอกให้ฟังว่าเบื้องหลังการทำงานของเว็บไซต์นี้นั้นไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะสิ่งที่ทางทีมงานต้องทำคือสร้าง Algorithm ขึ้นมาเพื่อแยกให้ออกว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมีกี่เสียง แล้วมีเสียงอะไรบ้าง จากนั้นก็ค่อยคำนวนความดังออกมา แล้วก็ให้ค่าความน่ารำคาญของโทนเสียงต่างๆ ออกไป เห็นมั้ยครับว่ากว่าจะออกมาเป็นแคมเปญการตลาดที่เรียบง่ายอย่าง Noise-O-Meter นั้น Bose ต้องทำการบ้านเหนื่อยยากขนาดไหน

และจากความเหนื่อยยากของทีมงานการตลาดเบื้องหลังก็ทำให้ Bose ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าน่าพึงใจ เพราะมีคนคลิ๊กเข้ามาให้ความสนใจแคมเปญนี้เกือบสองหมื่นคนภายสองสัปดาห์แรกผ่านโฆษณาทาง Instagram มีคนเอาเสียงเข้ามาแลกส่วนลดมากกว่า 7,000 ครั้ง และนั่นก็ทำให้ยอดขายหูฟังตัดเสียงรบกวนขั้นเทพของ Bose เพิ่มขึ้นกว่า 37.5% เลยทีเดียว!

เป็นอย่างไรครับกับ Discount Strategy กลยุทธ์การแจกส่วนลดที่ช่วยส่งเสริมคุณค่าแบรนด์ ทำให้คนเข้าใจว่าจุดขายและจุดแข็งของสินค้านี้คืออะไร ไม่ใช่แค่แจกไปเรื่อยๆ แบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ได้คิดว่ามันจะกลับมาช่วยสร้างแบรนด์ได้อย่างไร

เพราะ Branding คือทุกสิ่งที่คุณทำไม่ใช่แค่การทำหนังโฆษณาสวยๆ เก๋ๆ ไม่กี่เรื่อง ตั้งแต่พนักงานหน้าร้าน โพสบนเฟซบุ๊ค หรือแม้แต่การแจกส่วนลดโปรโมชั่นก็ล้วนแต่ส่งผลถึงแบรนด์คุณทั้งหมดครับ

นักการตลาดคนไหนอ่านแล้วเกิดไอเดีย ลองเอาไปประยุกต์ใช้ดูนะครับว่าคราวหน้าเราจะแจกส่วนลดหรือทำโปรโมชั่นอย่างไรที่ทำให้แบรนด์เราแข็งแรงขึ้นในระยะยาวครับ

อ่านบทความการตลาดที่ใช้ Discount Strategy ในการให้ส่วนลดที่ไม่ธรรมดาต่อ > https://www.everydaymarketing.co/tag/discount/

Bose Nice-O-Meter Discount Strategy

Source

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่