รู้จักใช้ Data Visualization Chart ด้วยหลักการ 5W1H

รู้จักใช้ Data Visualization Chart ด้วยหลักการ 5W1H

เมื่อการทำ Data Visualization นั้นไม่ได้เป็นเรื่องของความสวยงามของ Chart ต่างๆที่เรานำมาตกแต่งรายงานหรือสไลด์เพื่อนำมาพรีเซนต์เพียงอย่างเดียว แต่การทำ Data Visualization ที่ดีนั้นต้องสามารถถ่ายทอดข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากดาต้าเป็นหมื่นๆอัน เพื่อนำมาย่อยให้ผู้อ่านนั้นเห็นภาพและเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ภายในไม่กี่นาที และสามารถนำไปสู่การ making decisions ได้อย่างดีจากข้อมูลที่เราได้นำเสนอมา ในบทความนี้จะพูดถึงหัวในสำคัญในการทำ Data Visualization และการใช้ชาร์ตต่างๆให้สามารถดึง insight ได้ออกมาจริงๆจากการรวบรวมข้อมูลของการตลาดวันละตอนค่ะ

การทำ Data Visualization นั้นส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้เพื่อ Tracking ยอดขาย, หา Trends ต่างๆ, วัดผลการทำงาน หรือแม้กระทั่งย่อยข้อมูลให้เห็นภาพมากขึ้นและส่วนใหญ่แล้วจุดประสงค์เหล่านี้เองก็จะมักใช้ในการทำรายงานประจำปี, พรีเซนต์งานให้หัวหน้า การค้นคว้าและวิจัย และอีกมากมาย ซึ่งถ้าเราไม่สามารถชำแหละข้อมูลเหล่านี้ออกมาให้เห็นมุมมองที่เกิดประโยชน์สูงสุด การทำ Data Visualization Chart ก็จะเป็นเรื่องของกราฟที่สวยงามธรรมดาเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้วหัวใจของการชำแหละข้อมูลนั้นก็เกิดขึ้นได้จากความเข้าใจใน Data Storytelling นั่นเอง หลายปีที่ผ่านมาคำว่า Data นั้นแทบจะเป็นที่หลายคนนั้นพูดถึงและให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่แค่เพียงบทบาทของ Data ที่มีผลต่อภาคธุรกิจเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถนำมาเล่าเรื่องให้เข้ากับมุมมองของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี 

Data Storytelling คือการนำข้อมูลมาแปลงเป็นชีวิตจริง 

Venngage’s Data Storytelling in Marketing: Benchmark Report 2021

หัวใจสำคัญของ Data Storytelling คือการให้คนเข้าใจและนำไปใช้งานจริงได้ คือเราต้องเข้าใจ บริบทว่าการนำเสนอข้อมูลชุดนี้มีไปเพื่ออะไร? ถ้าหากต้องการรายงานยอดขาย เพราะฉะนั้นหัวข้อของการนำเสนอควรประกอบไปด้วยใจความอะไรบ้าง? ถัดจากนั้นเราออกแบบเรื่องราวที่เราต้องการจะเล่า ว่าสิ่งไหนควรอยู่ก่อนหรือหลัง และใจความนั้นควรเป็นอย่างไร แล้วหลังจากนั้นเราก็มาดูเรื่องข้อมูลว่าเราเก็บมาเพียงพอมั้ยและเราได้จัดเรียงข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน? เพราะนั่นก็ส่งผลต่อขั้นตอนสุดท้ายคือการนำมาออกแบบข้อมูลให้ดูน่าอ่าน น่าสนใจมากขึ้นนั่นเอง

แปลงร่าง Data Visulalization Chart ให้เกิด insight ด้วยพื้นฐานความเข้าใจของ 5W1H 

หลากครั้งการทำ Data Visualization ไม่ได้เป็นสิ่งที่บางคนถนัดในการเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านภาพ บางคนอาจพบปัญหาเรื่องของการใช้ Chart ยังไงให้เหมือนสมกับเนื้อความที่เราจะเล่า เพื่อให้ผู้ฟังนั้นเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจนและเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อออกมาได้อย่างชัดเจน วันนี้การตลาดวันละตอนได้นำเรื่องการใช้ Chart ต่างๆด้วยเทคนิค 5W1H หรือที่เรียกกันว่าการตั้งคำถามด้วย Who, What, Where, When, Why, How เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับชาร์จที่มีอยู่ใน Data Visulaization Tools แบบง่ายๆ และถนัดกับสิ่งที่เราคุ้นชินกันเป็นอย่างดี 

Who 

เริ่มจาก Who ที่เรามักจะใช้เล่าถึงคน หรือกลุ่มที่สื่อว่าเขาเป็นใคร มีจำนวนเท่าไหร่ หรือบางครั้งเราก็มักจะใช้กล่าวนำในช่วงแรกๆของการนำเสนอรายงานของเรา เพื่อให้ผู้อ่านนั้นรู้จักพวกเขาเหล่านั้นอย่างแท้จริง หรือเห็นภาพการเปลี่ยนแปลของคนนั้นไปในทิศทางไหน เช่น % การเปลี่ยนแปลงของคนที่อยู่ใน Social media ของเรา มีสัดส่วนที่มากขึ้นหรือน้อยลงเท่าไหร่บ้าง 

What 

เมื่อพูดถึงคำว่า What จะนึกถึงการอธิบายรายละเอียดถึงสิ่งนั้นจริงๆ จะเป็นการอธิบายให้เห็นรายละเอียดของภาพ ซึ่งบางครั้งอาจจะมาในรูปแบบของการที่เปรียบเทียบตัวแปรต่างๆนั้นอาจจะ Visualization ได้ในแง่ต่างๆ เช่น Line chart, Pie Chart, Bar charts ซึ่งกราฟเหล่านี้จะแสดงถึงความเป็น “What” ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากกราฟเหล่านี้จะโชว์ข้อมูลหลากหลายมุมมองในแง่ของการเทียบข้อมูล เทรนด์ และเปอร์เซนต์ต่างๆ นอกจากนั้นค่าต่างๆที่เรา visualize ออกมาจะแสดงถึง “What’s behind the numbers”

Where

คำว่า Where สิ่งแรกที่เรานึกถึงแน่นอนว่าเป็นภาพแมพที่เข้ามาในหัวเราเป็นอย่างแรก เพราะว่ากราฟที่แสดงเป็นแมพ อาจบอกถึง insight บางอย่างที่เกิดขึ้นผ่านโลเคชั่นนั้นๆ เช่น แมพที่บ่งบอกถึงพายุหิมะที่เกิดขึ้นนั้นสัมพันธ์กับยอดการเสียชีวิตในพื้นที่นี้ ซึ่งเราสามารถไป deep drive ต่อได้ว่าอัตราการเสียชีวิตกี่สูงขึ้นในช่วงนี้มาจากสาเหตุของพายุหิมะจริงๆหรือไม่

นอกจากนั้นแล้วการใช้ Where สามารถประยุกต์ใช้กับการวาง Positioning ของแบรนด์เพื่อหากลยุทธ์ที่เราจะสามารถโดดเด่นกว่าคู่แข่งได้ โดยการใช้ Venn Chart เข้าช่วยทำให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ 

When 

เรามักจะใช้สิ่งที่สื่อถึง When ด้วย “เวลา” เพื่อนำมาร้อยเรียงเรื่องราวตั้งแต่ต้นจบถึงตอนท้าย เช่น เราอาาจะใช้ “เส้นเวลา” หรือที่เรียกว่า Timeline เข้ามาพูดถึงประวัติของบริษัท ว่าจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่ และระหว่างทางเราได้ทำอะไรไปบ้าง ทำให้ผู้อ่านนั้นสามารถเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวเราง่ายขึ้นด้วยค่ะ 

Why

การที่เราจะตอบคำถาม Why นั้นเรามักจะใช้ภาพสื่อถึงเนื้อหาที่มีความสอดคล้องระหว่างกัน เพื่อให้บ่งได้ว่า ทำไมทำแบบนี้ถึงได้ผล ทำไมทำแบบนี้ถึงดี ซึ่งการใช้ Bubble charts ก็แสดงถึงตัวแปร 2-4 ตัวออกมาทำให้เห็น insight ได้อย่างดี 

How 

เมื่อขึ้นต้นด้วยคำถามนี้เราจะใช้เพื่อสะท้อนถึงขั้นตอนหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวนั้นๆ ซึ่งออกมาในรูปแบบของ Flowcharts หรือ Diagram กราฟชนิดนี้เราจะแสดงให้เห็นถึง Step-by-Step ถึงที่มาที่ไปได้เป็นอย่างดี อย่างด้านล่างเป็น Scatter plot เพื่อแสดงหาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวแปรเทียบกับตัวแปรอื่นๆ เช่นเราอยากจะหาว่า GDP ของประเทศเรากับอัตราการว่างงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงที่ผ่านมาได้ 

รอบหน้าทางการตลาดวันละตอนจะมาเล่าถึงตัวอย่าง Dashboard ของ Data Visualization ในมุมมองของธุรกิจต่างๆ น่าจะเห็นภาพการใช้งานมากขึ้นค่ะ หรือถ้าใครอ่านแล้วอยากลองลงมือทำแบบง่ายๆ ควบคุ่กับการอ่าน Data Visualization Tools ที่เราสามารถใช้งานได้ฟรีจาก Data Studio

สุดท้ายบริษัทไหนอยากให้ตัวเองเป็นบริษัทที่ใช้ Data-Driven Marketing ไวๆ การเริ่มต้นจากให้พนักงานมีทักษะความรู้เรื่องการทำ Data Visualization เป็น แล้วเสริมด้วยหลักคิดแบบ Data Thinking เข้าไปก็จะทำให้การใช้ Data-Driven Decision ในทุกๆ เรื่องของบริษัทเป็นไปได้ไวขึ้น

ดังนั้นการเพิ่มทักษะการทำ Data Visualization ให้พนักงานโดยเฉพาะทีมการตลาดจึงสำคัญมาก เพราะคนใช้ Data ควรต้องสามารถทำ Data เองได้ในระดับหนึ่ง

บริษัทไหนต้องการให้พนักงานมีความเข้าใจเรื่อง Data Thinking และทำ Data Visualization เป็น ทางการตลาดเคยจัดอบรมเรื่องนี้ให้กับบริษัทต่างๆ อยู่เรื่อยๆ

สามารถจัดเป็น Internal Course ให้พนักงานทั้งทีมการตลาดและทีมที่ต้องใช้ Data เป็นเข้ามาเรียนได้ เรียนแบบเน้น Workshop 1 วันเต็ม เรียนจบแล้วทำ Marketing Dashboard เองได้เลยไม่ต้องรอทีม IT อีกต่อไป (เพราะงานเขาก็ยุ่งอยู่แล้ว)

ติดต่อพูดคุยปรึกษาขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่พี่หนุ่ย เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน nattapon@everydaymarketing หรือที่เบอร์ 0856665380

Sources

Pitchakorn Sirimonta

Freelance at Everyday Marketing.co and current social media management who has a passion for business innovation and believe in data-driven marketing.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน