Case Study การตลาด Boost Juice Bars น้ำผลไม้คิวยาว กระแสไม่มีตก
บทความนี้ขอชวนนักการตลาดมาวิเคราะห์ด้วยกันกับ การตลาด Boost Juice Bars แบรนด์น้ำผักผลไม้ น้ำเพื่อสุขภาพ ที่เป็นตัวท็อประดับโลก และกำลังเป็นที่นิยมในกรุงเทพฯ แม้จะเปิดมาซักพักแล้วหน้าร้านก็ยังมีลูกค้ารอคิวกันยาวเหยียดสุด ๆ
ขอเล่าถึง Boost Juice Bars ซักนิดเผื่อใครสงสัยว่าทำไมเข้าไทยปุ๊ปก็มีลูกค้าพร้อมเปิดใจ แห่ต่อคิวซ้ำน้ำปั่นกันคึกคักค่ะ
Boost Juice เป็นกิจการที่ติด Top 5 ของโลก ถ้าพูดถึงแบรนด์น้ำปั่นและน้ำผลไม้ที่ใหญ่ที่สุด
มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ ในแถบยุโรป หลังจากแฟน ๆ ได้รอคอยมานานก็ได้เปิดสาขาในไทยแล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมาค่ะ
ความสำเร็จทางธุรกิจที่อาศัยกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ เหมาะเป็นกรณีศึกษาให้นักการตลาดอย่างมากค่ะ ยิ่งกับแบรนด์ที่อยู่ใน Perfect competitive market ที่น้ำปั่น น้ำผลไม้ที่มีอยู่เกลื่อน หาทานได้ทั่วไป
แต่ปัจจุบัน Boost Juice Bars สามารถเติบโต และขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยโมเดลธุรกิจระบบแฟรนไชส์ เปิดแล้ว 600 สาขาใน 15 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยค่ะ
มาดูกันว่าการตลาด Boost Juice Bars ที่นุ่นเลือกหยิบมาพูดคุยในวันนี้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จแบรนด์ระดับโลกจะมีอะไรบ้าง
มอบ Experience และ Reward ผ่านแคมเปญ Game Application
Free the Fruit และเกมภาคต่อ Find the Fruit เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ การตลาด Boost Juice Bars ที่ดึงดูดความสนใจ มอบประสบการณฺ์และรางวัลส่วนลดให้แก่ลูกค้า
แอปพลิเคชันเกม ที่มีถึง 2 เวอร์ชั่นเพราะดังเป็นพลุแตกจนแบรนด์สามารถต่อยอดกระแสได้อย่างฉลาดค่ะ ลูกเล่นของเกมจะเกี่ยวกับผลไม้ ผ่านด่านต่าง ๆ เมื่อชนะหรือมีคะแนนมากพอลูกค้าจะได้รับรางวัลเป็นเครื่องดื่มของแบรนด์ Boost Juice
สถิติของ Free the Fruit คือมียอดดาวน์โหลดไปกว่า 329,889 ครั้ง และมีคนเอารางวัลไปแลกซื้อที่หน้าร้านจริง ๆ ถึง 225,970 รางวัล ส่วนต่างเกือบแสนนั้นก็สามารถตีค่าเป็น Brand impression ที่ได้ผ่านการดาวน์โหลดแอปเกมไปเรียบร้อย และยังมีโอกาสเป็นลูกค้าในอนาคตอีกด้วยค่ะ
จะเห็นว่าแบรนด์ได้ทั้งยอดดาวน์โหลด ได้ลูกค้าหน้าร้าน และได้โอกาสทางการตลาดอื่น ๆ แต่พยายามคว้าฐานลูกค้าไว้ให้อยู่หมัดด้วยคุณภาพสินค้า การตลาดในด้านเซอร์วิสให้เสริมความสำเร็จคู่กันไป อย่าลืมนะคะว่าการตลาดจะดีแค่ไหน ถ้าสินค้าไม่พร้อม ก็ยากที่จะกลายเป็นแบรนด์ที่ประสบผลสำเร็จค่ะ
สำหรับแบรนด์เล็ก ๆ ที่อาจจะยังไม่มีงบประมาณถึงขั้นสร้างแอปพลิเคชั่น ลองสร้างผ่านฟีเจอร์ Social Media ง่าย ๆ หรือผ่านพาร์ทเนอร์ เพื่อมอบมิชชั่น และโปรโมชั่นเรียกลูกค้าให้มาที่หน้าร้านได้เช่นกันนะคะ
Outstanding grab-and-go product & service
เมื่อกี๊นุ่นเกริ่นไปแล้วว่า ความสำเร็จที่การันตีว่า การตลาด Boost Juice Bars เวิร์กเป็นเพียงส่วนหนึ่งเรามาลองแตกประเด็นด้านสินค้าและบริการกันต่อเลยนะคะ
–ให้อิสระลูกค้าเลือกดื่มแต่ของที่ชอบ กึ่ง ๆ customize
การเลือกเมนู จะเลือกตามที่ร้านแนะนำ หรือให้พนักงานช่วยผสมสูตรก็ได้ค่ะ จุดเด่นคือลูกค้าสามารถ Add on เติมนั่น ผสมนี่ ไปตามต้องการ เช่น ผง booster หรือที่แบรนด์เพิ่มมา เป็นผงวิตามิน ผงโปรตีน ส่วนผสมสกัดของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ค่ะ
–คุณภาพวัตถุดิบ และความสดใหม่
ผักและผลไม้แบรนด์เคลมว่าสดใหม่และมีคุณภาพแน่นอน และถ้าตามอ่านรีวิวลูกค้าส่วนใหญ่ก็บอกว่าได้รับเครื่องดื่มที่เป็นไปตามคำเคลมค่ะ แบรนด์จะไม่แต่งสีหรือกลิ่นสังเคราะห์ เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบที่ไม่ใส่สารกันบูด และเน้นปั่นออกมาแล้วรสชาติอร่อย ดื่มลงคอง่าย ๆ เพราะคนอาจมีความเคยชินว่าน้ำผักมันขม น้ำผลไม้มีกลิ่นแปลก ๆ แต่ถ้าได้ลองแล้วจะรู้ว่าใคร ๆ ก็ดื่มได้ไม่ว่าอยู่ Gen ไหนก็ตาม ไลฟ์สไตล์ชอบอาหารและเครื่องดื่มเฮลตี้ หรือไม่เฮลตี้เป็นลูกค้า Boost Juice ได้ค่ะ
–ใส่ใจด้านการบริการ ของพนักงานหน้าร้าน
เรื่องการบริการเจ้าของแบรนด์พูดถึงและใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะ Service หน้าร้านเป็นสิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับคุณภาพสินค้า เพราะลูกค้าบางคนถึงจะชอบและประทับใจในรสชาติมากแค่ไหน เจอพนักงานวีนใส่หน้าบูดไม่รับแขกก็ปัดตกได้ง่าย ๆ ค่ะ
เป็นสิ่งที่นุ่นอยากแนะนำให้แบรนด์ที่มีหน้าร้าน และมีแอดมินทางแชทใช้เป็น KPI ในการทำงานบริการนะคะ
–ระบบคิวที่ลูกค้าเยอะก็เอาอยู่ ไม่วุ่นวาย
แม้คนจะเยอะแต่ไม่วุ่นวายค่ะ คล้ายกับ Fast Food แต่นี่คือ Fast Drink ระบบคิวชัดเจน มีหน้าจอแจ้งว่าถึงคิวไหนแล้ว มีราวกั้นให้เข้าแถวเป็นระเบียบ และไม่ได้นานเกินรอ เพราะทุก ๆ ออเดอร์จะใช้เวลาปั่นไม่เกิน 4-5 นาทีค่ะ เป็นการรอของอร่อยอย่างมีจุดหมายสุด ๆ
Packaging Strategy ปรับตาม Mega trend รักษ์โลก รักษ์สุขภาพ
การตลาด Boost Juice Bars ที่นุ่นชอบคือแพ็กเกจที่มีสีเขียวโดดเด่น แบบซื้อทานแล้วรู้ว่าเป็นน้ำของแบรนด์ไหน ตามคอนเซ็ปต์สนุกสนานเฮฮาของแบรนด์แล้ว วัสดุที่เป็นถ้วยกระดาษไม่ใช้พลาสติกยังน่าสนใจอีกด้วยค่ะ อาจจะไม่ได้ Eco 100% แต่สามารถสร้างกระแสบนโซเชียลได้
มาถูกที่ถูกเวลากับเมกะเทรนด์รักษ์โลก และรักษ์สุขภาพพอดิบพอดีเลยค่ะ
การขยายสาขาผ่าน Franchise 600 สาขา 15 ประเทศ
ระบบ Established Operation System ซึ่งแบรนด์จัดให้เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีข้อมูลร้านค้าสาขาต่าง ๆ วิเคราะห์หลังบ้าน และอัปเดตเมนูที่ปรับสูตรให้เหมาะสมกับสาขาในแต่ละประเทศ เพราะเมนูที่ขายดีในออสเตรเลีย ใช่ว่าจะถูกปากคนไทยทั้งหมด ระบบนี้จะช่วย Pick Up ให้
ถือเป็นการทำธุรกิจด้วยความเอาใจใส่คู่ค้า ไม่ได้เน้นขายเฟรนไชส์ให้เสร็จไป แต่ยังมีการสนับสนุนให้ร้านไปต่อได้ในระยะยาว ทำให้แบรนด์แข็งแกร่งกว่าเจ้าอื่นนั่นเองค่ะ ซึ่งรายละเอียดธุรกิจโมเดลเฟรนไชส์ของ Boost Juice Bars คือสิทธิ์แฟรนไชส์หลักและสิทธิ์ในการพัฒนาแต่เพียงผู้เดียว โดยให้สิทธิ์ทั้งประเทศ สิทธิ์ระยะยาวในการพัฒนาและให้สิทธิ์แฟรนไชส์ย่อย Boost Juice Bars และจัดการโฆษณาในท้องถิ่นได้เลยค่ะ
ปิดท้ายด้วย Keep conversation – Reply Story รักษาฐานลูกค้า
สิ่งหนึ่งที่เจอ และอยากให้หลาย ๆ แบรนด์นำไปพิจารณาคือการ Keep conversation ตามเทรนด์การใช้งานโซเชียลมีเดียตอนนี้คนจะใช้ IG/FB Story กันเยอะ แบรนด์ทำได้ดี ที่รู้ว่าเครื่องดื่มในแพ็กเกจสีเขียวสะดุดตาฮอตฮิต ถ้าสั่งทานคนจะชอบอัปขึ้นโซเชียล
กด Reply Story ให้ Re upload บนแอคเคาท์หลักของเรา จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า เห้ยยย แบรนด์มาดูสตอรี่ลูกค้าด้วย และสตอรี่ของเราได้ขึ้นไปแอคเคาท์ออฟฟิเชียล ถือเป็นการรักษาฐานลูกค้าได้ดี อย่างน้องก็เกิดรีแอคชั่นที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าค่ะ ธีมการตลาดของ Boost Juice Bars เค้าเน้นสร้างสีสันสนุกสนานเฮฮาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยไม่ต้อง Keep ความเป็นทางการบนโซเชียลมากนักค่ะ
และนี่ก็เป็นทั้งหมดเกี่ยวกับ Case Study การตลาด Boost Juice Bars น้ำผลไม้คิวยาว กระแสไม่มีตก ที่นุ่นนำมาฝากนักการตลาดไทยในวันนี้ค่ะ เลือกหยิบแง่มุมที่น่าสนใจและคิดว่านำไปปรับใช้ เก็บเป็นกรีณีศึกษาที่ดีเพื่อพัฒนาไอเดียด้านการตลาดของทุกคนได้แน่นอน หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^^
