เรียนรู้บทบาทของ AI ในบริษัท ประกัน ผ่านแคมเปญจาก Cannes Lions
ตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน AI ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเสมอ เช่น วงการศิลปะ Midjouney, Photoshop ที่เอา AI เข้ามาปรับใช้สร้างรูปภาพ, การตลาดที่นำ Martech และ AI ต่าง ๆ มาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองลูกค้าให้ดีที่สุด หรือแม้กระทั่งกับวงการ ประกัน เองก็นำ AI มาปรับใช้ด้วยเหมือนกัน
ซึ่งเป็นการปรับใช้ที่เตยขอบอกเลยว่า เจ๋งสุด เพราะแคมเปญ AI Anxiety Meter จาก Cannes Lions ที่เตยนำมาแชร์ในบทความนี้จะเป็นการเปิดมุมมองการปรับใช้ AI ในอีกรูปแบบหนึ่งที่คุณอาจคิดไม่ถึงเลยทีเดียวค่ะ
มากกว่า 20% ของผู้คนต้องเผชิญหน้ากับความเครียดแบบขีดสุด
แคมเปญนี้มาจากบริษัทประกัน Croatia osiguranje (ประกันโครเอเชีย) ที่เล็งเห็นถึงความเครียดของผู้คนในประเทศโครเอเชีย เนื่องจากในขณะนั้นมีปัญหาต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของโควิด-19 (โครเอเชียเป็นประเทศอันดับ 8 ของโลกที่มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุด) แผ่นดินไหวหลายครั้งและความขัดแย้งในยูเครน เป็นต้น
ส่งผลให้ปัญหาสุขภาพจิตของผู้คนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ความเครียดและวิตกกังวัลนี้อยู่ในระดับที่สามารถเห็นได้ชัดถึง 50% ของประชากร และอีก 20% ที่พบเจอ เป็นความเครียดและวิตกในระดับที่เรียกว่าขีดสุด อันตรายและรุนแรงมาก จึงเป็นที่มาของแคมเปญนี้นั่นเองค่ะ
AI ตัวช่วยสำรวจสุขภาพจิตและอารมณ์จากการประเมินใบหน้า
ถ้ายังจำกันได้จากย่อหน้าแรกที่เตยบอกว่าแคมเปญนี้มีการปรับใช้ AI ในรูปแบบที่คุณคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว สาเหตุที่เตยบอกไปแบบนั้นก็เพราะว่า มันไม่ได้หวือหวาอะไร หรือพิเศษมากไปกว่าใครเลยค่ะ เพราะจากต้นตอของปัญหามาจากความเครียด ดังนั้นบริษัทประกันนี้จึงเอา AI มาใช้วัด ‘ความเครียด’ ซะเลย
โดยการปรับใช้ AI อย่าง Google face mesh และ Facial Emotion Recognition (FER) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจดจำการเคลื่อนไหวบนใบหน้า โดยวิเคราะห์ลักษณะต่างๆ ของใบหน้า เช่น คิ้ว ตา ปาก และลักษณะอื่นๆ
แล้วจับคู่กับชุดของอารมณ์ เช่น โกรธ กลัว ประหลาดใจ เศร้าหรือ สุข และนำมาประมวลผลแบบเรียลไทม์ว่าคนผู้นั้นกำลังรู้สึกหรืออยู่ในช่วงอารมณ์ไหน
ซึ่งบริษัท ‘ประกัน’ แห่งนี้ก็ได้ใช้ประโยชน์จาก AI สองชนิดนี้ โดยการสร้างเป็นบิลบอร์ดดิจิทัลตั้งไว้ตามสถานที่มีคนพลุกพล่าน เปิดโอกาสให้คนที่เดินผ่านไปมาสามารถเข้ามาวัดระดับความเครียดของตนได้
แค่ยืนอยู่นิ่ง ๆ ให้ AI ได้วัดและประมวลผลว่าอารมณ์อยู่ในระดับใด สุข ทุกข์ เศร้า หรือเครียดขนาดไหน หากผลออกมาว่าเครียดมาก ระบบก็จะเสนอให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา หรือใครที่มีแนวโน้มว่าเครียด ระบบก็จะทำการแสดงข้อความเชิญชวนให้ทำประกันกับบริษัทนั่นเองค่ะ ถือเป็น Insurtech ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวกันเลยทีเดียว
Insurtech ที่เข้าถึงง่าย เดินไปก็เจอด้วยสื่อ OOH
อย่างที่เตยได้เขียนไว้ในตอนต้นว่าความเครียดในประเทศโครเอเชียมันรุนแรงและรุมเร้าผู้คนซะเหลือเกิน Croatia osiguranje จึงเลือกที่จะเปิดโอกาสให้คนได้เข้าถึงง่าย ๆ โดยการทำเป็นสื่อ OOH ตั้งไว้ตามสถานที่พลุกพล่านต่าง ๆ ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ สามเมืองในโครเอเชียให้คนได้ใช้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียตัง
นอกจากนั้นยังโปรโมทตามสื่อโซเซียล วงการโทรทัศน์ต่าง ๆ เพื่อให้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของแคมเปญนี้อีกด้วยค่ะ
สรุป เรียนรู้บทบาทของ AI ในบริษัท ประกัน ผ่านแคมเปญจาก Cannes Lions
จะเห็นได้ว่าบทบาทของ AI ในวงการบริษัทประกันนั้น สามารถนำมาปรับใช้ในแง่มุมนี้ได้ด้วย ไม่ได้พลิกแพลง คิดตะแคงจนสมองขด แต่เป็นการคิดแบบง่าย ๆ แก้ไขที่ต้นตอได้อยู่หมัด ทั้งช่วยคนและแอบขายของเนียน ๆ แบบไม่ยัดเยียด แค่แจ้งให้รู้ว่าซื้อไว้ก็ดีนะ ประกันช่วยเหลือและจัดการความเครียดให้คุณได้
เตยมองว่าบริษัทประกันหลายแห่งเองก็เริ่มนำ Insurtech มาปรับใช้กันหลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ในองค์กรก็ดี นอกองค์กรก็ดี และผู้คนเองก็เริ่มชินกับยุคแห่ง AI กันมากขึ้น ดังนั้นเตยมองว่านี่คือโอกาสอย่างหนึ่งที่เราสามารถนำ AI มาพัฒนาสินค้าหรือบริการเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ