วิธีสมัคร OpenAI ChatGPT แบบเสียเงิน เพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

วิธีสมัคร OpenAI ChatGPT แบบเสียเงิน เพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาไปดูวิธีการสมัคร OpanAI ChatGPT แบบเสียเงิน เพื่อยกระดับความสามารถเป็น GPT-3 ตัว Davinci ที่เก่งกว่ามาก เพื่อนักการตลาดอย่างเราจะได้ทำงานสบายขึ้น พร้อมตัวอย่างผลงานบทคามจาก ChatGPT

ChatGPT จาก OpenAI เป็นอะไรที่ว้าวมากของคนทำงานจำนวนมาก จนถึงนักการตลาดอย่างผม วันก่อนผมโพสว่าผมลองใช้งานแบบเสียเงินดู ซึ่งทำงานได้ดีกว่า ChatGPT เวอร์ชั่นฟรีที่คนทั่วไปใช้กัน ซึ่งเรียกว่า Ada ยกระดับไปสู่ Davinci ซึ่งเก่งกว่ามาก สามารถกำหนดให้เจ้า AI GPT นั้นตอบคำถามเราได้ยาวขึ้น และปรับแต่งโมเดลการตอบคำถามได้ตรงกับความต้องการเรามากขึ้น

เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าครับว่า การจะสมัครใช้ Open AI ChatGPT แบบเสียเงินที่ล้ำกว่านั้นทำอย่างไร บอกได้เลยว่าง่ายมาก และก็ถูกมากด้วยถ้าเอาไปใช้งานทำจริง

1. เข้าไปที่หน้า Pricing ของ OpenAI.com ครับ

เข้าตรงมาหน้านี้เลยครับ https://openai.com/api/pricing/ ซึ่งหน้านี้จะเป็นหน้าที่บอกราคาการใช้งาน Open AI แบบเสียเงิน ที่ทำได้มากกว่าแค่แชท แต่ยังรวมถึง Dall-E ที่สามารถสร้างรูปภาพที่เราต้องการแค่พิมพ์ได้ด้วย (เหมือนกับ Midjourney)

ซึ่งราคาก็จะตามความละเอียดของรูปภาพครับ แต่เอาจริงๆ ก็ถูกมาก ภาพที่ละเอียดสุดยังไม่ถึง 1 บาทด้วยซ้ำ!

ส่วนตัวผมแนะนำให้คนสาย Designer หรือ Graphic Design เรียนรู้ที่จะใช้ AI Generated Image ให้เป็น เหมือนกับที่สามารถใช้ Photoshop และ Illustrator ได้คล่องครับ (จากใจคนเคยทำกราฟิกมาก่อน)

Language Models อันนี้แหละที่เหมือนกับ ChatGPT ที่เราเล่นฟรีกัน

Language Models จะมีให้เราเลือก 3 เวอร์ชั่น ยิ่งเก่งยิ่งแพง แต่เอาจริงๆ ก็ยังถือว่าถูกมากอยู่ดี

ซึ่งตัวฟรีที่เราใช้งานกับใน ChatGPT จะความสามารถในระดับ Ada ที่เน้นความเร็วในการทำงานเป็นหลัก

แต่เราสามารถขยับไปใช้ Davinci ที่เป็นขั้นสุด Most Powerful ได้ ซึ่งราคาก็คิดตามจำนวน Token หรือเทียบได้กับคำที่เราต้องการให้มันตอบ

ถ้าสังเกตุปกติ ChatGPT ตัวฟรีจะตอบคำถามเราได้ประมาณนึง แต่ถ้าเราใช้ตัวเสียเงินเราจะสามารถกำหนดความสั้นหรือยาวของคำตอบแต่ละช่วงได้สบายๆ

แถมยังปรับแต่งอะไรยิบย่อยได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าเล่นแบบสนุกสะใจ แบบที่ผมใช้แล้วติดใจจนจ่ายเงินให้ทุกคนในทีมได้ใช้แล้ว

ส่วนอันที่เหลืออื่นๆ ผมไม่ค่อยมีความรู้ ไม่ขอลงรายละเอียด ขอข้ามเข้าไปสู่วิธีการสมัครจ่ายเงิน และผูกบัตรเครดิตเลยนะครับ

Token คืออะไร? และคิดยังไงต่อ 1 Token

จากราคาจะเห็นว่า ถ้าเราใช้ความสามารถระดับ Davinci เราจะต้องจ่ายเงิน 0.02 ดอลลาร์ต่อ 1,000 token หรือราวๆ 60 สตางค์นิดๆ

แต่ก่อนจะเสียเงินเราต้องรู้ให้ชัดเจนก่อนนะครับว่าเราจะต้องเสียมากน้อยเท่าไหร่ จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมเงินเอาไว้ให้เรียบร้อย

จากคำอธิบายคือประมาณ 4 ตัวอักษร หรือ 0.75 คำ จะนับเป็น 1 token ระบบมีให้ทดสอบลองพิมพ์ดูว่าประโยคประมาณนี้นับเป็นกี่ token เพื่อที่เราจะได้แพลนในการถามได้ถูก บัตรเครดิตจะได้ไม่ฉีกตอนสิ้นเดือน

จากภาพการแบ่งสีของคำ คือการที่ระบบตัดให้รู้ว่า 1 token คิดตรงไหน ดูเหมือนจะนับเป็นคำๆ จริงๆ ครับ เพียงแต่อาจมีบางคำที่ยาวหน่อยก็จะถูกตัดออกเป็นสอง เช่น personal ization แบบนี้เป็นต้น

สรุปคือใช้ไปเถอะครับ ถามจนอิ่มเสียเงินไม่ถึงบาท คุ้มค่ามากจริงๆ เดี๋ยวจะเอาตัวอย่างให้ดู

2. สมัคร OpenAI เพื่อเตรียมใช้งาน ChatGPT ให้เรียบร้อย

เข้าที่ลิงก์นี้ https://beta.openai.com/signup หรือกดที่ปุ่ม Sign Up ตามรูปเลยครับ

ขั้นตอนการสมัครก็ง่ายเวอร์ แค่กรอกอีเมล ยืนยันอีเมล แล้วก็ยืนยันด้วยเบอร์โทรนิดนึง

จากนั้นก็ล็อคอินให้เรียบร้อย พร้อมใช้งานแบบฟรี ซึ่งมีเครดิตให้เริ่มต้น 18 ดอลลาร์ ใครอยากใช้มากกว่านั้นแบบผมก็เข้าไปผูกบัตรเครดิตต่อได้เลย

3. สมัครและล็อคอินแล้ว ก็ถึงคราวกด Upgrade OpenAI ChatGPT

ถึงเวลาที่เราจะเข้าไปอัพเกรดเพื่อรีดความสามารถของเจ้า OpenAI ให้ใช้ความสามารถทั้ง GPT หรืออื่นๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพ กดเข้าไปที่ปุ่มขวาบนที่เขียนว่า Upgrade ตามเม้าส์ผมในรูปได้เลยครับ

เมื่อกดเข้าไปเสร็จคุณจะเจอหน้าตาแบบนี้

เลือกไปที่ Billing > Overview และกดที่ Setup paid account หรือตามรูปเม้าส์ผมได้เลย

จากนั้นก็เลือกนิดนึงว่า จะสมัครใช้งานแบบส่วนบุคคล หรือบริษัท ส่วนตัวผมเลือก Individual แต่เอาเข้าจริงหลังสมัครเสร็จเราก็สามารถ Invite Member เข้ามาใน Account นี้ได้ครับ

เลือกเสร็จก็กรอกข้อมูลบัตรเครดิตให้เรียบร้อย ง่ายๆ เท่านี้เองครับ ระบบจะให้เราสามารถเลือกจำกัดวงเงินการใช้งานได้ ว่าเราจะใช้ได้ไม่เกินเท่าไหร่

เรียกได้ว่าใช้งานได้อย่างสบายใจ ปลอดภัยไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีก ผมตั้งไว้ที่ 120 เหรียญ เป็นค่าตั้งต้นมาให้ จะเลือกน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ก็ได้ครับ

เมื่อใช้งานไปสักพักเราก็สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ว่า ตอนนี้เราใช้งาน OpenAI GPT หรืออื่นๆ ไปเป็นเงินเท่าไหร่แล้ว ด้วยการกดเข้าไปตรงที่แถบ Usage ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ

4. ตรวจสอบเงินที่ใช้ไป

หน้านี้ก็จะอธิบายชัดเจนว่าแต่ละวันเราใช้งาน OpanAI ไปเท่าไหร่ เป็นเงินเท่าไหร่ เครดิตเราเหลือเท่าไหร่ เพื่อจะได้วางแผนการทำงานได้ถูกต้อง

เอาหละ มาถึงขั้นตอนสำคัญ มาดูกันดีกว่าว่าที่สนุกกว่า OpenAI ChatGPT นั้นเข้าตรงไหนอย่างไรกัน

5. Playground GPT-3 ยกระดับจาก Free ChatGPT สู่ Davinci ผู้ช่วยที่ทรงพลัง

กลับมาที่หน้าแรกอีกทีครับ กดเข้าไปที่คำว่า Playground ตามภาพที่ผมวงไว้ แล้วคุณก็จะเจอหน้าที่เหนือกว่า ChatGPT แต่เป็น GPT-3 ที่คุณสามารถเลือกใช้งานส่วนต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

สามารถเลือกได้ว่าจะให้ AI ระดับไหนมาทำงานให้เรา หรือจะปรับแต่งค่าต่างๆ อย่างไรบ้าง จะให้มันตอบได้ยาวสูงสุดเท่าไหร่ สามารถเซฟหัวข้อต่างๆ ไว้ได้ จากที่ผมลองใช้งานแล้วคือประทับใจสุดๆ

อย่างผมลองใช้ถามหาเทรนด์การตลาดใหม่ๆ ที่ผมเองอาจมองข้ามและนึกไม่ถึงมาก่อน

จนเจอว่าเจ้า AI GPT-3 พูดถึงเรื่อง Voice Search ซึ่งผมก็ว่าจริง เลยถามเจ้า AI เพิ่มเติมว่าถ้าผมจะเขียนเรื่องนี้ มันควรต้องมี Content Structure อย่างไร

ไปจนถึงขอรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ บวกกับขอเคสตัวอย่างจากแบรนด์ให้ผมหน่อย

สรุปคือผมได้เนื้อหาสำหรับเอามาต่อยอดเป็นบทความเรื่อง Voice Search ดีๆ ได้สบายๆ เลยครับ

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่ใช้ AI GPT-3 ช่วยแนะนำ

สรุปการตลาดยุค AI-Driven Marketing กับการใช้ OpenAI GPT-3 ที่เหนือกว่า ChatGPT ฟรีที่ใช้กัน

จากประสบการณ์ตรงผมพบว่า เจ้า AI แบบ GPT-3 ที่เราสามารถพิมพ์หรือพูดถามตอบได้ตรงๆ จะปฏิวัติการทำงานของเราทุกคนบนโลกไปมหาศาล

น่าจะก่อให้เกิดคลื่นลูกใหม่ที่เรียกว่า AI Disruption ต่อจาก Digital Disruption เมื่อ AI สามารถเข้าถึงง่าย ใช้งานได้ง่าย เราทุกคนก็จะขาด AI ไม่ได้อีกต่อไป เหมือนที่วันนี้มีใครบ้างที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากถ้าขาดอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนครับ

รีบเรียนรู้ที่จะใช้งาน AI เจ้า ChatGPT จาก OpenAI ให้ไว ใช้แบบไม่เสียเงินไปก่อนก็ได้ครับ หรือจะลองสมัครใช้แบบเต็มที่ แล้วก็ลองใช้จากเครดิต 18 เหรียญที่มีก็เปิดประสบการณ์ใหม่อย่างหนึ่ง

ลองอ่านบทความที่ผมใช้ OpenAI ChatGPT มาช่วยไกด์เนื้อหาจนออกมาเป็นบทความที่ติดอันดับ 1 SEO ของคำว่า Digital Marketing ต่างจาก Traditional Marketing อย่างไร

เห็นแบบนี้แล้วอย่าลืมเข้าไปสมัคร ChatGPT แบบเสียเงินของ OpenAI เพื่อยกระดับความสามารถกันนะครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่